ปรมัตถธรรมสังเขป
โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขันธ์ ๕
ขันธ์ ๕ คือ รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ [วิภังคปกรณ์ ขันธวิภังค์ ข้อ ๑]
ปรมัตถธรรม ๔ โดยขันธ์ คือ
จิต เป็นวิญญาณขันธ์
เจตสิก เป็นเวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์
รูป เป็นรูปขันธ์
นิพพาน ไม่ใช่ขันธ์ นิพพานเป็นขันธวิมุตติ คือ พ้นจากขันธ์
คำว่า ขันธ์ หมายถึงสภาพธรรมที่จำแนกเป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายใน ภายนอก หยาบ ละเอียด ทราม ประณีต ไกล ใกล้ [วิภังคปกรณ์ ขันธวิภังค์ ข้อ ๑-๓๑] ฉะนั้น ขันธ์จึงได้แก่สังขตธรรม ซึ่งเป็นธรรมที่มีปัจจัยปรุงแต่งเกิดดับ จึงเป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นต้น ส่วนอสังขตธรรม คือ นิพพานนั้นเป็นธรรมที่ไม่เกิด ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จะกล่าวว่าเป็นธรรมเกิดขึ้นแล้วก็ไม่ได้ ว่าเป็นธรรมที่ยังไม่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ ว่าเป็นธรรมที่จักเกิดขึ้นก็ไม่ได้ [ธรรมสังคณีปกรณ์ อัตถุทธารกัณฑ์ ข้อ ๘๙๔] จะกล่าวว่าเป็นอดีตก็ไม่ได้ ว่าเป็นอนาคตก็ไม่ได้ ว่าเป็นปัจจุบันก็ไม่ได้ [ธรรมสังคณีปกรณ์ อัตถุทธารกัณฑ์ ข้อ ๘๙๕] เพราะฉะนั้น วิสังขารธรรม คือ นิพพาน จึงไม่ใช่ขันธ์ เป็นขันธวิมุตติ คือ พ้นจากขันธ์
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงขันธ์ ๕ และอุปทานขันธ์ ๕ ดังนี้
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงขันธ์ ๕ และอุปาทานขันธ์ ๕ เธอทั้งหลายจงฟัง ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ขันธ์ ๕ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต อยู่ในที่ไกล หรือที่ใกล้นี้เรียกว่ารูปขันธ์ เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฯลฯ สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฯลฯ สังขารเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ฯลฯ วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต อยู่ในที่ไกลหรือใกล้ นี้เรียกว่าวิญญาณขันธ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เรียกว่าขันธ์ ๕ [สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค ปัญจขันธสูตร ข้อ ๙๕-๖]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อุปทานขันธ์ ๕ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต อยู่ในที่ไกลหรือใกล้ เป็นไปกับด้วยอาสวะ เป็นปัจจัยแก่อุปาทานนี้เรียกว่าอุปาทานขันธ์ คือ รูป เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฯลฯ สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฯลฯ สังขารเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ฯลฯ วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบัน อยู่ในที่ไกลหรือใกล้ เป็นไปกับด้วยอาสวะ เป็นปัจจัยแก่อุปาทานนี้เรียกว่าอุปาทานขันธ์ คือวิญญาณ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เหล่านี้เรียกว่าอุปาทานขันธ์ ๕
ปรมัตถธรรม ๓ เป็นขันธ์ ๕
จิตปรมัตถ์ ๘๑ หรือ ๑๒๑ ประเภท ทุกประเภทเป็นวิญาณขันธ์
เจตสิกปรมัตถ์ ๕๒ ประเภท
เวทนาเจตสิก ๑ เป็นเวทนาขันธ์
สัญญาเจตสิก ๑ เป็นสัญญาขันธ์
เจตสิก ๕๐ เป็นสังขารขันธ์
รูปปรมัตถ์ ๒๘ ประเภท ทุกประเภทเป็นรูปขันธ์
ขันธ์ ๕ เป็นปรมัตถธรรม ๓
รูปขันธ์ ได้แก่ รูปปรมัตถ์ ๒๘
เวทนาขันธ์ ได้แก่ เวทนาเจตสิก ๑ ดวง (เจตสิก ๕๒)
สัญญาขันธ์ ได้แก่ สัญญาเจตสิก ๑ ดวง (เจตสิก ๕๒)
สังขารขันธ์ ได้แก่ เจตสิก ๕๐ ดวง (เจตสิก ๕๒)
วิญญาณขันธ์ ได้แก่ จิตปรมัตถ์ ๘๙ ดวง หรือ ๑๒๑ ดวง
คำถามทบทวน
๑. ปรมัตถธรรมอะไรบ้าง เป็นสังขารธรรม
๒. สังขารธรรม เป็นสังขารขันธ์ ใช่ไหม
๓. วิสังขารธรรม เป็นสังขตธรรม ใช่ไหม
๔. อสังขตธรรม เป็นขันธ์อะไร
๕. อสังขตธรรม เป็นโลกียะ หรือโลกุตตระ
๖. จิต เป็นสังขารขันธ์ ใช่ไหม
๗. เจตสิก เป็นสังขารขันธ์ ใช่ไหม
๘. เวทนาขันธ์ เป็นปรมัตถธรรมอะไร
๙. ขันธ์อะไร ไม่ใช่ปรมัตถธรรม
๑๐. ปรมัตถธรรมอะไร ไม่ใช่ขันธ์
๒๑ มีนาคม ๒๕๔๓