#echo banner="" วัดป่า..มหาสนุก บทที่ 1-10

วัดป่า..มหาสนุก

โพสท์ในเวบพันทิบ ห้องศาสนา โดยคุณ : อนณ นิศารัตน์

โทร. - ไลน์ 093-149-9564

( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

บทที่                   ๑๐ ๑๑ ๑๒  ๑๓  ๑๔  ๑๕  ๑๖  ๑๗  ๑๘  ๑๙  ๒๐  ๒๑  ๒๒  ๒๓  ๒๔  ๒๕  ๒๖  ๒๗  ๒๘ ๒๙ ๓๐

๓๑  ๓๒  ๓๓  ๓๔  ๓๕  ๓๖  ๓๗  ๓๘  ๓๙  ๔๐  ๔๑  ๔๒  ๔๓  ๔๔  ๔๕  ๔๖  ๔๗  ๔๘  ๔๙  ๕๐ ๕๑ ๕๒ ๕๓ ๕๔ ๕๕ ๕๖ ๕๗ ๕๘ ๕๙ ๖๐

วัดป่า...มหาสนุก 1

" เอาความรู้ที่ได้อ่านมา ฟังมา โยนทิ้งไปให้หมดซะก่อน "

นี่คือคำสั่งแรก ที่หลวงพ่อ...แห่งวัดป่าฯ ใน จ.กาฬสินธ์ุ

ที่ผม กับคุณหม่อง...ภรรยา มาขออยู่เพื่อปฏิบัติธรรม เป็นเวลา 1 เดือน

เราสองคน หลบหลีกความวุ่นวายทางการเมือง แบ่งสีแบ่งพวกทะเลาะกันหนักหน่วง

เป็นเหตุให้การค้าขายล่มระเนระนาด พ่อค้าอย่างผมมีอันเครียดแทบเป็นบ้าไปตาม ๆ กัน

จนต้องมาหาที่ดับทุกข์ ดับความเครียดถึง...เขตแดนอีสาน

วัดป่าแห่งนี้ เป็น...ป่า จริง ๆ คือมีแต่ต้นไม้สูง ๆ ขนาดตึก 3 ชั้น ร่มครึ้มไปหมด อยู่ห่างหมู่บ้านคนกว่า 3 กิโลเมตร

และเป็น...ป่าช้า เก่าแก่มาหลายร้อยปีแล้ว เป็นป่าช้าร่วมส่วนกลางของ 5 หมู่บ้าน

คนแถวนี้ ถ้าตายดี แก่ตาย ป่วยตาย เค้าจะหามมาก่อกองไฟเผาสด ๆ

แต่ถ้าตายไม่ดี ฆ่ากันตาย อุบัติเหตุ หรือตายด้วยโรคแปลก ๆ เค้าจะเอามาขุดหลุมฝังเฉย ๆ

ฝังเสร็จแล้วแยกย้ายกลับบ้าน ไม่มีการสวดศพ ไม่ได้พบพระ พบเจ้าอะไรเลย

ทั่วทั้งวัดจึงเป็นหลุมศพ หรือเชิงตะกอนทั่วไปหมด ไม่มีการกำหนดปักป้ายอะไรสักนิด

เราสองคนผัวเมีย ไม่เคยนึกเคยฝันว่าจะมาในสถานที่ ที่เปลี่ยวเปล่า เงียบสงัดแบบนี้

อันที่จริงเราขอไปอยู่กับ ... หลวงตามหาฯ...เจ้าอาวาสวัดขนาดใหญ่ประจำอำเภอ กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

แต่ท่านพิจารณาแล้วว่า วัดของท่านมันใกล้ตลาดชุมชนมากเกินไป จะหาความสงบไม่ได้

ด้วยความเมตตา จึงพาเราสองคน มาทิ้งไว้ที่...วัดป่า อันแสนเงียบสงัด วังเวง แห่งนี้แทน

แถมยังสำทับนักหนาอีกว่า...หลวงพ่อ...เจ้าอาวาสที่นี่

ท่านเป็น...ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และเคร่งมากนะ

ท่านสอนอะไร ก็ให้เชื่อฟังและทำตาม จะพบกับทางพ้นทุกข์ได้

หลังจากมาถึงและได้กราบพบ หลวงพ่อ...ท่านแล้ว

พอเงยหน้ามองท่านเต็ม ๆ ตา ก็เกิดอกุศล ในใจทันที เพราะท่านดูเป็น พระธรรมดา ๆ มาก ๆ

ไม่ได้มีอะไรที่เปล่งประกายสักนิด อายุก็เพิ่งจะ 50 ปี แต่บวชมานานถึง 30 พรรษาแล้ว

ใจผมอดคิดไม่ได้ว่า....นี่นะเหรอ พระอริยสงฆ์

พอความคิดยังไม่ทันสิ้นสุด...หลวงพ่อ...ท่านหันมามองผม แล้วอมยิ้มนิด ๆ ทั้งพยักหน้า

แต่วิธีมองของท่าน มันเหมือนกับว่า ทะลุเข้าไปในจิตใจส่วนลึกของผมเลย

ตอนนั้นแน่ใจเลยว่า..ท่านรู้ ท่านได้ยินความคิดของผม

หลังจากสอบถามชื่อเสียง บ้านช่อง และอาชีพ ของเราสองผัวเมีย

แล้วขอปวารณา ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ขอให้ท่านสั่งสอน

ท่านถามว่าเคยไป ปฏิบัติธรรม ที่ไหนมาบ้าง

ผมบอกท่านว่า...เคยแต่อ่านมาเยอะ ของพระ และอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ท่านโน้นท่านนี้

เคยฝึกด้วยตัวเองมาบ้าง แต่ไม่ปะติดปะต่อ

ท่านหรี่ตามองเราสองคน แล้วหันมาสั่งกับผมโดยเฉพาะ... เอาความรู้ที่ได้อ่านมา ฟังมา โยนทิ้งไปให้หมดซะก่อน

ผมข้องใจมาก ถามท่านกลับไปทันทีว่า ทำไมต้องทิ้งความรู้ ที่พากเพียรหาใส่ตัวมาตั้งเยอะ ตั้งนาน นึกว่าจะดีซะอีก

ท่านกลับบอก...เหตุผลที่ให้ทิ้งของเก่าไปให้หมด เพราะว่า......

ประการแรก...สิ่งที่ผมได้ไปฟังมา อ่านมา เรียนรู้มานั้น คนที่เขียนตำรา หรือคนที่เล่าบรรยายให้ฟังนั้น

พวกเค้ารู้จริง หรือเปล่า เคยปฏิบัติฯ จนได้สำเร็จได้ มรรค ได้ผล จริงหรือเปล่า

หรือแค่ไปฟังต่อ ๆ มา ไปค้นคว้าเอาจากตำรา จากพระไตรปิฏก แล้วมานั่งนึกจินตนาการเอาเองว่ามันถูกต้องแล้ว

ประการที่สอง...ถึงแม้ว่า ท่านเหล่านั้นที่ผมไปอ่าน ไปฟังมา ท่านรู้จริง ปฏิบัติฯ ได้มรรค ได้ผลแล้วจริง

แต่การเรียนรู้ และการปฏิบัติฯ ตามของผม...มันไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

ยกตัวอย่างเช่น แทนที่ผมจะทำตามสเตปขั้นตอน จาก 1 ไปจนถึง 10 ตามที่ควรจะเป็น

แต่ผม ดั๊นนน...ก้าวจากขั้นที่ 1 ไปขั้นที่ 4 กระโดดกลับมาขั้นที่ 2 แล้วไปขั้นที่ 8 ย้อนมาขั้นที่ 6 อย่างนี้เป็นต้น

มันผิดหมด มันมั่วววว ...ไปหมด

ประการที่สาม....ผมได้ทำอย่างละนิดละหน่อยตามอารมณ์อยาก มันไม่ต่อเนื่อง มันยังไม่เพียงพอ

เปรียบเหมือน การต้มน้ำ...อารมณ์ดี ก็จุดไฟตั้งเตา แพล่บบเดียวดับไฟ เลิกแล้ว

พอนึกสนุกก็ ติดไฟต้มน้ำอีก เพลอหน่อยเลิกซะอีกแล้ว...อย่างนี้กี่ชาติ น้ำก็ไม่เดือด ไม่สำเร็จสักที

พอผมฟังเหตุผลที่ หลวงพ่อ...ท่านอธิบาย ก็จนปัญญาจะโต้แย้ง

ผมเลยกราบเรียนถามท่านใหม่ว่า...แล้วจะให้เริ่มต้นยังไงครับ

ท่านบอก........พุทโธ อย่างเดียว

ท่านบอกแค่นั้น ผมสงสัยมากเลยถามว่าแล้วต้อง...หายใจเข้า พุธ หายใจออก โธ มั้ยครับ

ท่านกลับบอกว่า....ไม่ต้อง แค่ท่องภาวนา...พุทโธ ในใจอย่างเดียวเท่านั้น ทำแค่นั้นพอ

ยอมรับนะครับว่า ในตอนแรกฟังแล้ว งง ๆๆๆ ไม่ค่อยเข้าใจ

แต่ทำยังไงได้ ก็ต้องเชื่อท่าน ทำตามที่ท่านบอก แหมม...แต่มันแค่ท่อง พุทโธ ไปเรื่อย ๆ แค่นั้นเองเหรอ

หลังจากที่มาถึงวัดป่า...แห่งนี้ 3 วันแรกมันช่างสับสนอลหม่าน และทุกข์ทรมาน จริง ๆ

สับสน เพราะทำตัวไม่ถูก เราเป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ไม่คุ้นเคยกับวิถีชีวิตของคนอีสานสักนิด

อาหารการกิน ก็ไม่รู้จะไปซื้อที่ไหน ต้องอาศัย...ข้าวก้นบาตร ที่ชาวบ้านเค้าถวายพระ มาแบ่งให้กิน

แต่รสชาดมันไม่คุ้นเคย กินได้แค่ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง และผลไม้

แถมพระป่า ท่านฉันอาหาร...มื้อเดียว เท่านั้น

เราสองคนผัวเมีย ก็ต้องกินแค่มื้อเดียวตามไปด้วย บอกตรง ๆ หิวข้าวเย็น อย่างมากมาย

ในแต่ละวัน ก็ต้องปฏิบัติภาวนา เดินจงกรม สลับนั่งสมาธิ ทั้งวันยันเที่ยงคืน

กิจกรรมอื่น อันเป็น...กิจวัตร ก็ต้องทำตามที่ พระท่านทำ

เริ่มตั้งแต่ตื่นก่อนตี 4 ลงไปช่วย พระลูกวัดที่ชาวบ้านเรียกว่า...ครูบา

ช่วยปัดกวาดเช็ดถู ปูลาดเสื่อขนาดใหญ่เพื่อเตรียมต้อนรับชาวบ้านที่จะมาถวายภัตตาหารเช้า ที่นี่เค้าเรียก...ถวายจังหัน

ต้องเดินตามท่านเข้าไป บิณฑบาต ในหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร

แถมต้องเดินเท้าเปล่า ไปบนถนนลูกรัง ดินแข็ง ๆ หินคม ๆ สลับลาดยางมาตอย ที่เต็มไปด้วยกรวดทราย

ในวันแรก ๆ เดินเขย่งด้วยความยากลำบาก และถูกหินบาดเท้าได้แผลสด ๆ

พอมาเดินจงกรมทั้งวัน ฝ่าเท้าแตกเพิ่มเติมเข้าไปอีก ทรมานสุด ๆ

ตอนบ่ายเย็น ต้องไปช่วยกัน...ตีตาด กวาดลานวัด เช็ดถูโบสถ์ วิหาร ศาลา สารพัด

ตอนค่ำ...เข้าโบสถ์ รวมตัวกัน...สวดมนต์ ทำวัตรเย็น เป็นชั่วโมง

ตบท้ายด้วยการ นั่งสมาธิ ต่อหน้า...หลวงพ่อ อีก 2 ชั่วโมงเต็ม ๆ

ความทุกข์ทรมานที่สุด ก็อีตอนนั่งสมาธิ ต่อหน้าหลวงพ่อนี่แหละครับ

ตลอด 2 ชั่วโมง ผมทั้งปวด ทั้งเมื่อย ปวดเอว ปวดขา ปวดแขน ปวดตัว ปวด..ด..ด.ด ไปหมด

จนต้องขยับตัวเปลี่ยนท่า ผุดลุกผุดนั่ง แทบทุก 5 นาที 10 นาที

แถมพอปวด มาก ๆ มันหายใจติดขัด เหนื่อยหนักเข้าไปอีก

อดทนทำเต็มที่ได้ 3 วัน เท่านั้นเอง

พอวันที่ 4 ผมไปขอลากลับบ้าน... ขอเลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว

คุณหม่อง ภรรยาของผม เธอก็เหนื่อยเพลียเหมือนกัน แต่ยังใจสู้ อยากจะขออยู่ต่ออีกสักหน่อย

แต่ผม น่ะ...ไม่เอาแล้ว ถอดใจแล้ว

หลวงพ่อ....ท่านเรียกผมไปคุยกันส่วนตัว ไม่ให้คุณหม่อง อยู่ด้วย

ท่านถามว่า ทำไมถึงจะเลิกแล้วล่ะ ไม่กลัว...ตกนรก เหรอ

ผมฟังแล้ว รีบแย้งท่านเสียงดัง...กะอีแค่ขอกลับบ้าน แค่นี้ถึงกับ ตกนรกเลยเหรอครับ

ท่านยิ้มเย็น ๆ แล้วเมตตาบอกว่า....เสียสัจจะ ตั้งจิตเป็นสัจจาธิษฐานแล้ว

พวกเทวดา ที่ท่านได้ยิน ได้...อนุโมทนาแล้ว ท่านต้องไม่พอใจแน่ ๆ

และที่สำคัญ สัญญากับ พระอริยะ แล้วผิดคำสัญญา จะต้องมีผลกรรมแน่นอน

พอได้ฟังอย่างนั้น ผมถึงกับสลด

ท่านสำทับอีกว่า...ไม่สงสาร คุณหม่องเหรอ เค้าตั้งใจมากนะ

จะทำลายการสร้างกุศลของเค้า ขวางทางบุญคนที่ตั้งใจมันก็บาปหนักอยู่นะ

เจอไม้นี้เข้าไป...ผมคอตก สารภาพว่าได้พยายามเต็มที่แล้ว แต่มันไม่ไหวจริง ๆ

มันปวดมันเมื่อย เหนื่อยอ่อนไปหมด

หลวงพ่อ...ท่านหัวเราะ แล้วบอกว่าทุกคนที่ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา ก็ต้องเจอแบบนี้ทั้งนั้นแหละ

ทั้งพวก ครูบา ทั้งหมด หรือแม้แต่ตัวท่านเอง ก็ต้องผ่านสถานการณ์ที่คิดว่า เลวร้าย อย่างนี้เหมือนกันหมด

วันแรก ๆ ที่หัดอดอาหาร ก็ละโหยโรยแรงอย่างนี้เอง อีกไม่กี่วันก็จะเคยชิน

ผมบอกท่านเสียงอ่อย ๆ ว่า เจ็บเท้ามาก ยิ่งตั้งใจเดินจงกรม ยิ่งเจ็บมาก เหนื่อยเพลียมาก

หลวงพ่อ...ท่านกลับบอกว่า ถ้าเหนื่อย มาก ๆ แล้วทำไมไม่พัก...นอนกลางวัน

ผมฟังถึงตรงนี้แล้ว มึนตึ๊บบบ ...เอ๊ะ นอนพักกลางวันได้ด้วยเหรอ

ท่านหัวเราะ บอกว่าใคร ๆ เค้าก็ต้องนอนพักตอนกลางวันทั้งนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีแรงภาวนาถึงเที่ยงคืน

อ้าววว ฟังแล้วรู้สึกตัวเองโง่ไปเลย

แต่...ก็ยังแย้งไปอีกว่า ตอนที่นั่งสมาธิ หลังจากทำวัตรเย็น ในตอนนั้น ไม่รู้ว่าทำไมมันช่าง...เจ็บปวดทรมานเหลือเกิน

คราวนี้หลวงพ่อ...ท่านนั่งเงียบไปอึดใจนึง แล้วจ้องถามว่าอยากรู้มั้ย ล่ะ ถ้าอยากรู้จะบอกให้

ท่าน เล่าว่า...ตั้งแต่วันแรกที่เห็นผมเดินเข้ามากราบท่าน...

ท่านเห็น...มีเด็กผู้ชายคนนึงเดินตามหลังมาด้วย แถมตัว ดำเมี่ยม เลย

ในตอนนั้นพอฟังแล้ว ยิ่งอึ้ง.ง..ง

ท่านก็ถามว่า...ตอนเป็นหนุ่มวัยรุ่น เคยทำกรรมหนัก กับเด็กหรือเปล่า ล่ะ นึกดูดี ๆ

เท่านั้นแหละครับ ภาพในอดีตหนหลังมันผุดขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ลืมมันไปเกือบ 40 ปีแล้ว

ผมสารภาพกับท่านว่า...เมื่อตอนที่เพิ่งเข้าเรียน มหาวิทยาลัยเปิด ชีวิตอิสระเสรี

วัยรุ่นกำลังวุ่นวาย มาเจอกับได้เจอกับสาวลูกครึ่งคนนึงที่กำลังว้าเหว่

ได้เสียกันจนท้องขึ้นมา เลยแก้ปัญหาอย่าง โง่เง่าด้วยการไปทำแท้ง

พอหมดเรื่องแล้ว ด้วยความรู้สึกผิดทำให้ต้องเลิกราแยกย้ายกัน...ต่างคนต่างไป

ซึ่งเรื่องนี้ มันเป็น..รอยบาป เป็นเรื่องที่แย่มาก ๆ จึงได้พยามลืมเรื่องนี้ออกจากใจมาตลอดเกือบ 40 ปีแล้ว

หลวงพ่อ...ท่านบอกว่า นั่นแหละ เค้ายังตามอาฆาตอย่างเห็นชัดได้เลย เพราะตัวดำเมี่ยมเลย แสดงว่าผูกอาฆาตแรงมาก

ในตอนที่นั่งสมาธิ ในโบสถ์ ท่านมองเห็น เด็กคนนั้นเค้าขี่คอ...ขย่ม ตามคอ ตามแขน ขา เค้าพยายามขัดขวางการภาวนา

เลยทำให้ผม เจ็บปวดเนื้อตัว แขน ขา ตลอดเวลาที่พยายามนั่งสมาธิ

ฟังหลวงพ่อ...ท่านเล่าแล้ว ผมเกิดความละอายใจ ในบาปกรรมที่เคยได้กระทำไปแล้วอย่างที่สุด

อารมณ์ตอนนั้นมัน..เศร้าสลดเหลือเกิน เสียใจในการกระทำเลวชั่วของตัวเองในอดีต

มันมีแต่ความเศร้า ความละอาย ความเสียใจ

ที่แทรกเข้ามาในความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอีกอย่างหนึ่ง

คือ...ความรู้สึกถึงความมีตัวตนของ วิญญาณ ดวงนั้น

ความรู้สึกผูกพันกับเค้า และละอายต่อเค้าอย่างที่สุด

ผมก้มลงกราบหลวงพ่อ...ขอให้ท่านช่วยพิจารณาให้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี

ท่านนิ่งมองผมด้วยความเมตตา และสมเพชเวทนาอยู่สักพัก แล้วท่านก็พูดกับผมว่า....

.....เอาละ...คืนนี้จะลองคุยกับเค้าให้ นะวันนี้ตั้งใจภาวนาให้เต็มที่ก็แล้วกัน

วันนั้นทั้งวัน ทั้งๆ ที่คิดว่าจะเลิกลากลับบ้านแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าผมตั้งใจ ปฏิบัติฯ ภาวนาอย่างแข็งขัน

เพราะคิดว่าอยากจะ...อุทิศบุญกุศล เพื่อขอโทษต่อดวงวิญญาณที่ผมได้ทำลายเค้าไป

ส่วน คุณหม่อง ภรรยาของผมเธอดีใจมากที่จะได้อยู่สร้างกุศลปฏิบัติฯ ภาวนาต่อดังที่ตั้งใจไว้

วันนั้นผมจัดเวลา การเดินจงกรม และนั่งสมาธิ ให้ได้อย่างละ 1 ชั่วโมง และนอนพักตอนเที่ยง 2 ชั่วโมง

ปรากฎว่าได้ผลดีมาก สติมั่นคง ปัญญา และจิตใจผ่องใสมาก

เมื่อถึงตอนทำวัตรเย็นเสร็จ แล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิต่อหน้าหลวงพ่อ 2 ชั่วโมง กลับทำได้ดีขึ้น ทุรนทุรายน้อยลงมากทีเดียว

ก่อนเดินกลับ หลวงพ่อ...ท่านเรียกไว้แล้วถามว่า....คืนนี้ลองปฏิบัติฯ ภาวนาทั้งคืนดูสิ จะไหวมั้ย

ผมไม่กล้ารับปากท่าน แต่ก็อยากลองดูเหมือนกัน

คืนนั้นตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 3 เป็นเวลา 5 ชั่วโมงที่ตั้งใจเดินจงกรม และนั่งสมาธิ ต่อสู้กับความง่วงเหงาหาวนอน

โดยใช้เรื่องผิดพลาดในอดีตที่ได้ก่อกรรมหนักกับดวงวิญญาณเด็กคนนั้น

มาเป็นแรงกำลัง ตั้งใจสร้างบุญกุศล อุทิศให้กับเค้าให้ได้มากที่สุด

แต่ก็แปลกมากนะ...ความเหนื่อยท้อแท้ หรือความกลัวผี ที่มีมาตลอด 3 วัน มันกลับหายไปหมด

ในตอนเช้าเดินตามไปบิณฑบาต มีความรู้สึกว่าตัวมันเบา เท้าก็เจ็บน้อยลง

จิตใจฮึกเหิมเหมือนกับเพิ่งสอบผ่าน หรือได้รางวัลอะไรสักอย่าง

รู้แต่ว่า...ใจมันโปร่ง เบา สบาย ยังไงก็ไม่รู้ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

แต่พอถึงเวลาพัก กลับหลับยาวไป 3 ชั่วโมงเลย ครับ

อนณ นิศารัตน์

วัดป่ามหาสนุก 2

เมื่อตอนที่แล้ว เล่าว่า...ผมกับภรรยา มีเหตุให้ได้ไป ปฏิบัติธรรม อยู่ในวัดป่าฯ ที่ กาฬสินธุ์

ได้พบกับ หลวงพ่อ....ผู้เป็นพระอริยสงฆ์

ท่านสั่งให้เอาความรู้ที่ได้เคยอ่าน เคยฟังมาทั้งหมด โยนทิ้งไปก่อน

แล้วเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่

หลังจากที่ได้เชื่อฟังท่าน และตั้งใจปฏิบัติภาวนา อย่างเต็มที่จริงจังได้เพียง 3 วัน

ก็มีอันถอดใจ ขอเลิกลากลับบ้านดีกว่า

หลวงพ่อ...ท่านได้เมตตาเกลี้ยกล่อมให้อดทนอีกนิด เริ่มต้นใหม่ ๆ มันก็อย่างนี้ทุกคน

อีกไม่กี่วันน่าจะพอปรับตัวได้

แต่ผมก็ยังมีปัญหาเรื่องการ นั่งสมาธิภาวนา...มันทุกข์ทรมานเจ็บปวดแสนสาหัสเหลือเกิน

ท่านจึงได้เล่าในสิ่งที่...ท่านเห็น

เห็น...วิญญาณเด็กผู้ชาย ตัวดำเมี่ยม เต็มไปด้วยความแค้น คอยติดตามผมอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเวลาที่ผม ตั้งใจนั่งสมาธิภาวนา ....วิญญาณดวงนั้น ก็จะคอยกลั่นแกล้งทรมานด้วยการ

ขึ้นขย่มตาม คอ หลัง แขน ขา ตลอดเวลา

ผมได้กราบขอให้หลวงพ่อ...ท่านช่วยหาวิธีแก้ไขบรรเทาโทษ

ท่านนิ่งไปหลายอึดใจ แล้วบอกว่า....จะลองคุยกับเค้าให้

วันต่อมา เมื่อมีโอกาสได้ปรนนิบัติรับใช้ หลวงพ่อ...ท่านได้พูดกับผมว่า

เมื่อคืนได้นั่งภาวนา อธิษฐานเรียก...วิญญาณเด็กคนนั้นมาคุยแล้ว

ทีแรกก็ไม่ยอมคลายทิฐิ ต้องพูดกันอยู่นานเชียวแหละ

เด็กคนนั้นเค้าบอกว่า...โกรธแค้นอาฆาตมาก ที่ทำลายการเกิดเป็นคนของเค้า

แต่ที่แค้นมากที่สุด คือ...การที่ไม่เคยนึกถึงเค้าเลย ลืมเค้าไปจากจิตใจเลย

ไม่เคยสำนึกใน บาปกรรม ที่ทำกับเค้าแม้สักนิดเลย

เค้าเลยคอยติดตาม...กลั่นแกล้ง ให้พบกับความพินาศ ล่มจม

ให้เจ็บปวด ทุกข์ทรมานทั้งกาย ทั้งใจ ให้มากที่สุด

ไม่ว่าทำกิจการใด ก็ให้เสียหายไปหมด

ทุกครั้งที่ผมไป...ทำบุญ เค้าก็รอคอยหวังว่าจะระลึกถึงเค้าบ้าง

แต่...ก็ไม่มีสักครั้งเลย ทำให้เค้าต้องผิดหวังซ้ำแล้ว ซ้ำอีก

ดีแต่ว่า...ผมได้ทำกรรมดีอย่างหนัก สร้างบุญอย่างอุกฤต บางอย่าง

เทวดา ฟ้าดิน ผู้มีศักดานุภาพยิ่งใหญ่ได้มาช่วยปัดเป่าให้...หลายครั้ง

ผมเองเมื่อฟังถึงตอนนี้แล้ว สารภาพเลยครับว่า...น้ำตาตก มีแต่ความเศร้าซึมเสียใจที่ได้ทำเลวชั่วกับเด็กคนนั้น

หลวงพ่อ...ท่านเล่าต่อว่า

ได้พูดคุย หว่านล้อมให้วิญญาณดวงนั้น เข้าใจถึง...บาปบุญ คุณโทษของการกระทำด้วยความอาฆาตแค้น

ว่ามันจะยิ่งทำให้...ไม่ได้ไปผุดไปเกิด ไม่ได้ไปพบทางสว่าง แต่กลับทำให้มืดมัว ทุกข์ทรมานไปด้วยกันทั้งสองฝ่าย

จนกระทั่ง วิญญาณเด็กคนนั้น จิตใจสงบ อ่อนลง ด้วยเมตตาที่ท่านแผ่ให้

ท่านได้ขอให้...อโหสิกรรม ต่อกันเสียเถอะ มันเป็นกรรมที่ทำผูกเวรกันมาหลายภพชาติเต็มทีแล้ว

วิญญาณเด็กคนนั้น...ได้ยื่นข้อต่อรองว่า ให้ผมที่เป็นคนทำลายการเกิดของเค้า

ต้องตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาให้เต็มที่ เต็มกำลังตลอด 1 เดือนนี้

และจะต้อง...อุทิศบุญ ให้เค้าแต่ผู้เดียว อีกด้วย

ถ้าทำได้ค่อยมาว่ากันใหม่ ....

หลวงพ่อ...ท่านได้บอกให้เค้าละเว้น อย่าได้กลั่นแกล้งขัดขวางการภาวนา นะ

ซึ่งเค้าก็ตกลงรับปาก ว่าจะละเว้นให้...แค่ชั่วคราว

พอฟังถึงตอนนี้ ผมปล่อยโฮ...ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายท่านเลย

มันเสียใจ ๆๆๆๆ...

แต่ก็รู้สึก โล่งโปร่ง เหมือนยกภูเขาออกจากอก

สิ่งที่เคยอึดอัด คับข้องใจ อย่างไม่มีสาเหตุเหมือนกับมันหลุดออกไป

หลวงพ่อ...ท่าน ยังบอกอีกว่า ต่อไปนี้ให้ระลึกถึง เด็กคนนี้เค้าอยู่เสมอ

ตั้งชื่อให้เค้าซะเลย บอกกล่าวให้เค้ารู้นะว่า...เค้าชื่ออะไร

ทุกครั้งที่ ปฏิบัติฯ ภาวนาเสร็จแล้ว ต้องอุทิศบุญกุศลให้เจาะจงทุกครั้ง นะ

แล้วท่านก็ถามว่า ผมได้เคยไปทำอะไรมา ที่เป็นบุญใหญ่ถึงขนาดที่ว่า เทวดา อันมีศักดิ์ใหญ่มาช่วยปัดเป่าให้

ผมจึงได้เล่าถวายท่าน ถึงเรื่องราวเมื่อครั้งค้าขาย กระทั่งล่มจมมีหนี้สินเป็นล้าน ได้เข้าไปอยู่ในแวดวงโจร

แต่มีคนมาบอกให้...อธิษฐานขอให้เทวดาฟ้าดินช่วย

( ไปหาอ่านได้จากเรื่อง.... กรรมทันตา อธิษฐานหนีกรรม )

http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/09/Y9748221/Y9748221.html

แต่...ต้องทำสัญญาแลกเปลี่ยนบางอย่าง

จนสามารถกลับมาตั้งเนื้อตั้งตัว ได้ใหม่อีกครั้ง

ต่อมาในปี 2554 ได้มีโอกาสไปกราบ..สังเวชนียสถาน ที่อินเดีย

ได้เขียนเล่าเรื่องไว้ ใน...กรรมทันตา โอ้..อินเดีย

เพื่อเผยแพร่ชักชวนให้คนสนใจไป...กราบบาทพระพุทธองค์ อีกมากมายหลายคน

หลวงพ่อ...ท่าน นั่งฟังพิจารณาแล้วบอกกับผมว่า....

ดีแล้ว นั่นแหละ คือ...บุญกุศลอันหนัก อันอุกฤตมาก

เป็นเหตุดีที่ทำให้ เทวดา ผู้เป็นใหญ่ท่านหันมามอง มาช่วยเหลือได้

นับว่ายังมีบุญอยู่เหมือนกันนะ เลยได้มาจนถึง...วัดป่าฯ แห่งนี้

หลังจากกราบลาท่านออกมาแล้ว ผมตรงดิ่งไปที่ ...โบสถ์

ไปนั่งต่อหน้า พระประทาน ตั้งใจสวดมนต์ตั้งจิตให้สงบ และมั่นคงดีแล้ว

อธิฐานขอให้ พระพุทธรูป เป็นพยาน ขอตั้งชื่อให้กับ ดวงวิญญาณเด็กคนนั้นที่ผมได้ทำลายเค้าไป

ให้เค้ามีชื่อว่า...บัว

เหตุเพราะเค้าได้เกิดมาจากความ ความเลวชั่ว และความประมาทของผม เหมือนเหง้าบัวที่อยู่ในโคลนตม

แต่วันนี้เค้าได้เกิดขึ้นมาเหมือน...ดอกบัว ที่แทงก้านโผล่ขึ้นมารับแสงแดด

ต่อไปนี้ขอให้เค้า...เบ่งบาน รับเอาแต่สิ่งที่ดี ๆ

รับเอา...บุญกุศล ที่ผมจะตั้งใจทำให้อย่างเต็มกำลัง

ผมได้รู้ ได้เข้าใจ และสำนึกผิดแล้ว ว่าการกระทำของผมมันชั่วเลวมากมาย

มีแต่ความเสียใจ ๆๆๆ อย่างที่สุด

ขอได้โปรด อโหสิกรรม อย่าได้ต่อเวร ก่อกรรม กันอีกเลย....ผมสำนึกผิดแล้วครับ

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 3

เมื่อวานเล่าเรื่อง ครูบาจุก

มีคนถามว่าแล้ว หลวงพ่อ...ให้ทำยังไง ผี ตนนั้นถึงได้ยอมให้ท่านอยู่ที่นั่นได้

อันที่จริงผมก็ถามแบบนี้เหมือนกัน ซึ่งท่านก็เล่าว่า....

หลวงพ่อ...ย้ำเตือนเรื่องแรก คือ พระวินัย การปฏิบัติตัวต้องสำรวมระวัง

ศีลต้องไม่บกพร่อง ถ้าด่างพร้อยก็เหมือนเปิดช่องให้เค้าเล่นงานได้

และต้องสวดมนต์ทั้งเช้า ทั้งเย็น อัญเชิญเทวดา และสวดพระสูตร...ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ทุกวัน

วันพระต้องสวดพระสูตรหลัก ทั้ง 3 พระสูตร คือ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ...อนัตตลักขณสูตร และ อาทิตตปริยายสูตร

ให้สวดสม่ำเสมอ และแผ่เมตตาจี้ให้เค้าตลอดเวลา

ซึ่งก็ได้ผลในเวลาไม่นาน...ผี เจ้าที่ตนนั้นก็ยอมมาฟังสวดมนต์ ทั้ง ๆ ที่ในตอนแรกตั้งท่าไม่ชอบ พระ ท่าเดียว

อะไรก็ไม่เอา แผ่เมตตาก็ไม่เอา ตั้งตัวเป็นศัตรูอย่างชัดเจน

ตอนหลังไม่รู้ว่ายอมอ่อนลง เพราะ...เทพ เทวา ท่านมาสวดมนต์ด้วย เลยเกรง ๆ ละมั้ง

ภายหลังคงได้รับ บุญ ที่ตั้งใจแผ่ให้อย่างเจาะจง จี้ ให้เค้าโดยเฉพาะ...คงจะรู้สึกร่มเย็นเป็นสุขขึ้นด้วยละมั้ง

แหมมม...ว่าไปแล้วก็เหมือนคนเรา นะ

พอมีคนที่มีอำนาจ บารมียิ่งใหญ่กว่าตัวเองเยอะมาถึงบ้านถึงถิ่นที่อยู่ ก็ย่อมแตกตื่น และจ๋อย ไปเยอะ

แถมยังได้ผลประโยชน์ ได้รับบุญที่ท่านแผ่ให้อีก...ไม่มีอะไรเสีย มีแต่ได้ ยอม ๆ หน่อยก็ไม่เสียหาย เน๊อะ

นึกถึงเรื่องที่ ครูบา ท่านเจอ ผี อันธพาลตัวบิ๊กเบิ้ม มายืนจังก้าโท่โร่ ขตาใส่ท่านในวันแรกที่บวช

เลยนึกได้ว่า...วันแรกที่ผมบวช ก็เกิดเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกัน

ผมไปอยู่ที่วัดป่า....แห่งนี้ก่อนบวชประมาณเกือบเดือน เพื่อไปเตรียมตัว และหัดท่องบทขอบรรพชา

บทที่ขอบวช ของวัดป่า จะแตกต่างกับของ...วัดบ้าน

และที่สำคัญ หลวงพ่อ...ท่านเน้นให้ผม ออกเสียงแบบ มคธ ให้ชัดเจนเพื่อเป็นแบบอย่างโดยเฉพาะ

ต้องมีจังหวะ การขึ้นลงของเสียง ที่เป็นแบบเฉพาะ อีกด้วย

ไม่แค่ท่องจำได้ แต่ต้องให้ถูก อักขระฐานกลอน อีกต่างหาก ท่านว่าต้องการอนุรักษ์ไว้เป็นแบบอย่าง

พิธีกรรมการบวชของ...ธรรมยุติ หรือวัดป่า ไม่ค่อยวุ่นวาย

ไม่มีการแห่ การขี่คอ การไหว้สีมา เหมือนอย่าง วัดบ้าน มหานิกาย

ออกไปทาง เรียบง่าย เข้มขลังซะมากกว่า...ซึ่งผมเองมีความตั้งใจเต็มที่เกินร้อยในการบวชครั้งนี้

มาเตรียมตัว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า....ผ้าขาว หรือ เป็นนาค นั่นแหละ

สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุด คือ การนุ่งห่มจีวร

คุณเอ๊ยยยย....ช่วงอาทิตย์แรกของการบวช ผ้าจีวร คอยแต่จะหลุดออกจากตัวอยู่ตลอด...ผ้ามันลื่นมาก

ผมละกลัวมันหลุดลุ่ย ต่อหน้าชาวบ้านตอน...บิณฑบาต

ทุกเช้ามันเครียดอยู่แต่เรื่องนี้....มันยากมาก ยิ่งมีบาตรให้สะพาย คอยเปิดฝา ปิดฝาด้วยแล้ว

โอ๊ย ผ้าก็จะหลุด บาตรก็จะคว่ำ ฝาบาตรก็จะร่วง

แล้วช่วงเข้าพรรษา เป็นช่วงหน้าฝน ยังต้องถือร่มอีกต่างหาก...ความเครียดพุ่ง ปรี๊ด ๆ ทุกเช้าเลย

ย้อนมาในวันที่บวช มันยุ่งเหยิงไปหมด...กลัวท่องไม่ได้ กลัวตกใจลืมกลางคันละตายยย ๆๆๆ

กลัวห่มจีวร ไม่เป็น หรือหลุดลุ่ย ตอนสะพายบาตรด้วยนะ ตอนที่บวช น่ะ

ญาติก็มากัน ลูกเมียอีก ยังไม่นับชาวบ้านที่เค้าเอาใจช่วย และมาร่วมโมทนาบุญกันอีก

อย่างที่เคยบอกไว้ว่า...ผมเป็นคนกรุงเทพแท้ แล้วมาปฏิบัติฯ ภาวนากรรมฐาน ที่นี่ชาวบ้านเค้าเห็นเป็นของแปลก

แถมนี่ยังจะมา บวช ให้พวกเค้าได้ใส่บาตร เค้าเลยตื่นเต้นมากกว่าปรกติ

ไปเตรียมตัวแต่เช้า กว่าจะออกจากโบสถ์มาเป็น...พระสำเร็จรูป ก็บ่าย

แล้วยังต้องไปกราบ...หลวงตามหา...ที่ อ.กมลาไสย เพราะถือว่าท่านเป็นผู้ฝากให้มาเป็นลูกศิษย์ของ หลวงพ่อ....

และท่านยังให้...ผ้าจีวร อย่างดีมาโดยเฉพาะ เมื่อบวชเป็นพระแล้ว ก็ต้องไปกราบคารวะ หลวงตามหาฯ ให้ท่านสั่งสอนสำทับอีกที

ตลอดช่วงเวลาที่มาเป็น นาค หรือผ้าขาว หลวงพ่อ...ท่านจะปลุกเร้าโน้มน้าวเราทุกวัน ให้เห็นถึง บุญบารมี ของการบวชเป็น พระ

ตอนค่ำวันนั้น ก็จะเป็นวันแรก ที่ได้...สวดมนต์ทำวัตรเย็น ในฐานะความเป็น พระภิกษุสงฆ์ เป็นครั้งแรก

ซื่งความรู้สึกของการมาปฏิบัติธรรม กับความรู้สึกของการเป็น...พระ มันแตกต่างกันลิบลับ

สำหรับผม คนเดียวนะครับ...การได้เป็น..พระป่า มันช่างภาคภูมิใจอย่างที่สุด

ใจมันฮึกเหิมดั่งกับว่าได้เป็น...นักรบ เต็มตัวแล้วมันให้รู้สึกคึกคักห้าวหาญ มั่นอกมั่นใจเต็มร้อย

ยิ่งตอนสวดมนต์ทำวัตรเย็นในวันแรก เสียงสวดสาธยายมนต์มันเหมือนกับเสียง...กลองศึกที่กำลัง ตีย่ำอย่างเร้าใจ

พระวินัย ศีล 227 ข้อ คือสิ่งที่ต้องพึงสำรวมระวังอย่างเคร่งครัด สถานะถูกยกขึ้นให้ชาวบ้านเค้า...กราบไหว้

และถูกจับจ้องจากทุกสายตา ด้วยความคาดหวังว่าเราจะเป็น...ที่พึ่งที่ระลึก เป็นสรณะทางใจ ให้กับพวกเค้า

การปฏิบัติฯ ภาวนา ก็ยิ่งต้องเข้มข้นมากกว่าเดิม กว่าจะได้กลับถึง กุฏิของตัวเองก็เที่ยงคืนไปแล้ว

เพียงแค่หัวถึงหมอน แทบไม่ทัน พุทโธ ก็หลับวูบบบ

มารู้สึกตัวว่ากำลังฝัน...แต่เป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก

ในฝันมี...คุณยาย ของผมที่ท่านได้เสียชีวิตไปเกือบ 30 ปีแล้ว...ท่านมาเรียกให้เดินตามไปด้วยกัน

ท่านพาผมไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง...มืดมิด มีแต่หมอกลอยอบอวล อยู่รอบตัวเรา เหมือนในหนังไม่มีผิดเพี้ยน

มีศาลาโล่ง ๆ อยู่หลังหนึ่ง แต่ไม่ได้เข้าไปในนั้น

แล้วผมได้พบกับบรรดา...น้าชาย ที่ตายไปหลายปีเต็มทีแล้ว 3 คน

ซึ่งน้าชาย ทั้ง 3 คนของผมนี้เค้าสนิทกับผมมาก เมื่อครั้งที่พวกเค้ายังมีชีวิตอยู่

แต่ต้องขอเล่าก่อนว่า...น้าชายของผมเป็นพวกตัวแสบประจำถิ่น ไม่รู้จักการทำบุญ ทำแต่บาปกรรม เป็นระยะ

คนนึงกะล่อนโกหกเก่งสารพัด คนนึงติดการพนัน อีกคนนึงก็เจ้าชู้ และทั้งหมดชอบ กินเหล้า เป็นชีวิตจิตใจ

คุณยายของผมเอง ก็ติดเหล้า ต้องกินทุกเย็น เรียกว่าเป็นครอบครัว....ขี้เมาทั้งบ้าน

ตอนที่ผมยังเด็ก ก็ชอบไปเล่นที่บ้านของคุณยาย และพวกน้า ๆ ก็ช่วยกันเลี้ยงดู สอนการใช้ชีวิตสารพัดรูปแบบ

สอนว่ายน้ำ สอนขี่จักรยาน สอนขับรถยนต์. นับว่ามีบุญคุณกับผมมาก

พวกน้าชายทั้ง 3 คน เค้าเดินเซื่องซึมเรียงแถวกันมา เหมือนกับมี เชือก ล่ามร้อยพวกเค้าเอาไว้

โดยมีผู้คุม ที่ลักษณะ ตัวใหญ่ล่ำบึ๊ก ท่าทางดุ เฉียบขาด แต่ไม่ใช่ ดุร้าย

ภาพรวมแล้วเหมือน...นักรบบางระจัน อะไรแบบนั้น น่ะ

ผู้คุมพยักหน้าให้ พวกน้าชายทั้งหมดเข้าไปนั่งใน...ศาลา พวกเค้าก็เข้าไปนั่งเรียงแถว คอตกเลื่อนลอย เซื่องซึม

แต่มองไปแล้วเรารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า...พวกเค้ากำลัง ทนทุกข์ แสนสาหัส

ไม่ใช่ทุกข์ทางกายแบบ ถูกตีถูกแทง อะไรอย่างนั้น...แต่มันเป็นทุกข์ ที่ใจอย่างใหญ่หลวง กัดกินอยู่ข้างใน

เหมือนกับไฟมันสุมอยู่ในอก ตลอดเวลานานเท่า นาน.น..น...น

ลองนึกถึงความทุกข์ที่มันอยู่ในใจ เวลา...อกหัก เป็นหนี้ เศร้าโศกเสียใจ ฯลฯ แต่คูณด้วยพันเท่าอะไรอย่างนั้นแหละ

ส่วนผมที่เป็น พระ ยืนดูอยู่ข้างนอกศาลา ที่มีคุณยายของผม และผู้คุมท่านนั้น

แล้วคุณยาย ก็หันมามองผมด้วยสายตาที่ ทนทุกข์ไม่น้อยกว่าพวกน้าชายของผม

ท่านไม่ได้พูดออกมาเป็นเสียง แต่เป็นการสื่อสารที่รู้ว่าท่านต้องการให้ผม ช่วยพวกเค้าด้วย

ในชั่วขณะเวลานั้น ผมทั้งเศร้าสลดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า

และเข้าใจดีทุกอย่างว่า...พวกคุณยาย และน้า ๆ ของผม มาจาก...นรก โดยมียมทูต คุมตัวมา

ผมได้ยอมรับในสิ่งที่เห็นตรงหน้า และยินดีที่จะช่วยพวกเค้าอย่างเต็มที่ เท่าที่จะช่วยได้

แล้วผมก็ตื่นขึ้นมา อย่างมีสติเต็มที่ว่าสิ่งที่ฝันไปนั้น...มันจริงแท้ไม่ได้ฝันเพ้อเจ้อ

รุ่งขึ้นเมื่อมีโอกาส ได้กราบเรียนเรื่องที่ฝัน ให้หลวงพ่อ...ทราบ

ท่านบอกว่า...คนที่ตั้งใจบวช และปฏิบัติฯ อย่างเต็มที่ กระแสแห่งบุญ นี้เทวดาก็โมทนาด้วย

และท่าน พญามัจจุราช ซึ่งเป็น เทพชั้นผู้ใหญ่ ท่านก็รับรู้และให้โอกาสกับ ญาติพี่น้อง ที่ตกอยู่ใน...นรก ของท่าน

ได้มีโอกาสขึ้นไป...ขอส่วนบุญ

หลวงพ่อ...ท่านยังสำทับอีกว่า สร้างบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยการ บวช และยังตั้งใจที่จะก้าวเดินอย่างเต็มกำลัง

ได้สร้างแรงพลังไปถึง นรก สวรรค์ แล้ว จะทำให้พวก เทวดา และพญามัจจุราช ท่านผิดหวังไม่ได้นะ

ลองคิดดูสิครับ ...หลวงพ่อ...ท่านพูดถึงขนาดนี้

แล้วผมจะกล้าขี้เกียจได้ยังไง

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 4

จะว่าไปแล้ว ตลอดเวลา 1 เดือนที่ได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดกับท่าน

เห็นมีใครต่อใคร มาขอให้ท่านช่วยแผ่เมตตา...ช่วยเหลือสารพัด

มีตั้งแต่...ซื้อรถใหม่มาให้ท่านเจิม เพิ่งได้ลูกก็มาให้ท่าน เป่ากระหม่อม ยิ่งถ้าเป็นเด็กผู้ชาย จะขอให้ท่านอุ้มด้วย

ใครมีหนี้ ก็มาให้ท่านช่วยปัดเป่า ใครที่กำลังทุกข์ใจก็มาให้ท่านแผ่เมตตาให้

จะสอบเข้าทำงาน อยากเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ก็มาให้ท่านช่วย

คนที่กำลังเคราะห์ร้าย เจออุบัติเหตุ หรือมีคดีความ ก็มาหาท่าน

คนที่อยากมีลูก ก็มาขอให้ท่านช่วย...เรื่องนี้มาทีไรท่านหัวเราะทุกที

แต่ก็จะบอกให้ไปอธิษฐานขอกับ พระประธาน ซึ่งสำเร็จไปหลายราย

เรื่องประหลาด ๆ ก็มี เช่น...ครอบครัวหนึ่ง พ่อแม่พาลูกชายวัยรุ่นมากราบท่าน

ตัวลูกชาย ขับรถมอเตอร์ไซค์แหกทางโค้งตกลงไปสลบ ถึง 3 วัน

พอฟื้นขึ้นมาเล่าว่า กำลังขี่รถมาช้า ๆ เห็นคนแก่กวักมือเรียก...

พอหันไปมองเท่านั้นก็หมดสติไปเลย ฟื้นตื่นขึ้นมาแล้วยังมีอาการเลื่อนลอย

หลวงพ่อ...ท่านเพ่งมองนิ่งไปอึดใจนึง แล้วบอกว่าที่ตรงนั้น มันมีอีกมิติหนึ่งเหลื่อมซ้อนกันอยู่ มันเป็นเมือง ๆ นึง

เด็กคนนี้แต่ก่อนเป็นคนของที่นั่น แต่หนีมาเกิดที่นี่...เค้ามาตามให้กลับไปรับใช้

ท่านให้ไปถือศีล สวดมนต์ทุกวันอย่าให้ขาดแล้วจะปลอดภัย

อีกรายหนึ่ง พ่อแม่พาลูกชายอายุประมาณ 12 ขวบมากราบท่าน

เล่าว่าถูกไฟลวกอย่างรุนแรง แล้วเปิดแผลให้ดู....โดนไฟลวกทั้งแขนทั้งสีข้าง ลามถึงต้นขา

ต้องไปอยู่ในห้องปลอดเชื้อถึง 3 เดือน จนแผลสนิทดีแล้ว แต่ก็ยังมีอาปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา

หลวงพ่อ...ท่านพิจารณาอยู่นาน แล้วบอกว่า

เด็กคนนี้เมื่อชาติที่แล้วนี้เอง เค้าเป็น..งูเห่า อยู่ที่วัดในตัวอำเภอ กมลาไสย นี่เอง

แต่...ทุก ๆ วันจะเห็น หลวงตามหาฯ...เจ้าอาวาสท่านเดินจงกรม

( หลวงตามหาฯ ที่ฝากให้ผมมา ปฏิบัติธรรม กับหลวงพ่อ...นี่แหละ )

ได้เห็นแล้วเกิดจิตศรัทธาอย่างมากมาย อยากเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อจะได้เดินจงกรมบ้าง

ชาตินี้ถึงได้ลัดคิวมาเกิดเป็นคน อยู่ข้าง ๆ วัดของหลวงตามหาฯ ใช่มั้ย

พ่อแม่ เค้าก็รับคำว่า...ใช่แล้วบ้านเค้าอยู่ข้างๆ วัดใน อ.กมลาไสย เอง

หลวงพ่อ...ท่านบอกอีกว่า เด็กคนนี้พอโตอีกหน่อย ก็ให้บวชซะ เค้าพวกหัวช้าเรียนหนังสือคงไม่ถึงไหน

แต่เค้าอธิษฐานมาเกิดเป็น มนุษย์ เพื่อจะบวช

ส่วนเรื่องที่ถูกไฟลวกรุนแรง เพราะเป็น...กรรมเก่า มาให้ผล

ชาติที่แล้วที่เป็น งูเห่า เคยไปพ่นพิษใส่คนอื่นเค้าปางตาย

แล้วท่านให้เอาสีผึ้งมาที่ท่าน อธิษฐานจิต ไปทาให้ทั่ว ๆ จะดีขึ้นเอง แต่ต้องสวดมนต์ทุกวันด้วย

เคยมีอยู่รายหนึ่ง พ่อแม่กับชาวบ้านช่วยกันจับตัว หนุ่มวัยรุ่นคนนึงมาหาท่านกลางดึกเลย

เค้าอาละวาดเป็นการใหญ่ ชาวบ้านว่าถูก ผีเข้า มาที่วัดยังอาละวาดอยู่เลย

หลวงพ่อ...ท่านดูแล้ว ให้เอาไปมัดไว้กับเสาใต้ถุนโบสถ์ แล้วให้คนเฝ้าไว้ห่าง ๆ

พอตอนเช้าอาการ สงบดีแล้ว ให้เอาหาหมอ...ท่านบอกมันเมายาบ้า ต่างหากล่ะ

ที่แปลก ๆ อีกราย...เป็นหนุ่มโรงงาน มาสารภาพกับหลวงพ่อ....

ว่าเค้าไปเป็น ชู้ กับเมียของหัวหน้า

ห้องพักคนงานอยู่ใกล้กัน ตัวผู้หญิงเค้ามาขอยืมเงินบ่อย ๆ เลยสนิทกันจนเลยเถิดไป

แต่ที่เค้ารู้สึกไม่สบายใจเลย ก็เพราะหัวหน้าคนนี้เป็น..คนดี ธรรมะธรรโมซะด้วย

ทว่าฝ่ายผู้หญิง ก็แอบมาหาเค้าบ่อย ๆ ยืมเงินบ่อย ๆ ยุ่งกันบ่อย ๆ

รายนี้ท่านฟังแล้วส่ายหน้าอย่างเดียว แสดงอาการเหนื่อยใจเลย

แล้วท่านก็อธิบาย ยาวววว....รู้หรือเปล่าว่าเมื่อเรา เริ่มผิดศีลกาเมฯ ปุ๊บ

ต้นงิ้วในนรก มันก็จะเกิดขึ้นทันทีปั๊บเลย...ต้นงิ้ว ของเราโดยเฉพาะ

ยิ่งเมื่อทำผิดศีลข้อนี้ ซ้ำอีก...ต้นงิ้วของเรามันก็จะเติบโตแข็งแรงขึ้นอีก

ยิ่งทำผิดมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งโตใหญ่...หนาม ก็ยิ่งยาวขึ้นไปอีก

ตอนนี้เค้ามี...ต้นงิ้ว เป็นของตัวเอง รออยู่ในนรกแล้ว และมันก็โตใหญ่ขึ้นทุกที

ไอ้หนุ่มโรงงานคนนั้น หน้าเสีย หน้าซีด ถามว่าจะต้องแก้ไขยังไงดี

ท่านบอก...ให้เลิกซะ อย่าทำอีก กรรมมันหนักนะ

แล้วท่านก็เล่าต่อให้ฟังว่า...โยมพ่อของท่านตายไปหลายปีแล้ว

ท่านพยายามตั้งจิตเพ่งดูว่า วิญญาณ ไปอยู่ที่ไหน เกิดเป็นอะไร

ปรากฎว่าท่านเห็นในขณะเพ่งดู...กำลังถูกยมบาลผลักเข้าไปในประตูนรก

ท่านเพ่งดูต่ออีกว่า...ทำผิดเรื่องอะไร ยมบาลบอกกับท่านว่า หลายเรื่อง

แต่ตอนนี้ไปรับโทษ เรื่องผิดลูกเมียคนอื่นเค้า

แล้วท่านก็หันไปบอกเค้าว่า....แม้แต่โยมพ่อของท่านเอง ท่านยังช่วยอะไรไม่ได้เลย

แถมรายนี้หลวงพ่อ...พูดกับเค้าตรง ๆ ว่า เป็นคนอ่อนแอต่อกิเลส

ถ้าไม่ยอมฝืนใจสู้กับ ตัณหาราคะ ที่มายั่วยวน ก็จะต้องไปเจอกับสิ่งที่ท่านบอก...แน่นอน

บางรายก็มีเรื่องที่นึกไม่ถึง เช่น ผู้หญิงวัย 50 กว่าคนนึง

ท่าทางมีฐานะดีมาก มารถเบนซ์ค่อนข้างใหม่เชียว

มากันหลายคน พี่น้องญาติ ๆ กันทั้งนั้น พอมาถึง กราบท่านแล้ว

หลวงพ่อ....ก็ถามว่ามาจากไหนกัน ทำมาหากินอะไร

พวกเค้าก็รายงานตัวว่า อยู่จังหวัดใกล้ ๆ นี่เอง ทำธุรกิจเปิดร้านทอง เหมือนกันทั้ง พี่ ๆ น้อง ๆ

มองดูก็เหมือนกับ ข่ม หรือแข่งขันกันเองอยู่ในที ที่มาหาหลวงพ่อ เพราะได้ยินว่าท่านช่วยให้การค้าเจริญขึ้นได้

หลวงพ่อ...ท่านหัวเราะ หึ..หึ หรี่ตามองไปทีละคน แล้วพูดว่า....เอ้ามีปัญหาอะไรพูดมา

เท่านั้นแหละ ตัวพี่สาวเจ้าของรถเบนซ์ ก็เล่าเรื่องราวความทุกข์ และปัญหาในชีวิตออกมายืดยาว

เล่าถึงหนี้สินที่กำลังจวนตัวเป็นสิบล้าน

พูดถึงลูกชายคนเล็กที่อยากเป็นคนเด่นคนดัง เอาเงินไปผลาญสร้างชื่อเสียงหมดไปหลายล้าน

ญาติพี่น้องช่วยกันห้าม ก็ไม่ยอมเลิก

จนหลวงพ่อ...ท่านบอกให้หยุดนั่นแหละถึงได้หยุดพูด

มีเสียงถามขึ้นว่า...คาถาไปท่องให้ร่ำรวยขึ้น มีมั้ย

ท่านบอกมี ให้จดไปนะ

...ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน หมั่นสวดมนต์ภาวนา....

เสียงคนถามบอกว่ามันฟังเหมือน...คำขวัญวันเด็กยังไงก็ไม่รู้

ท่านบอกเอาไปท่องให้ขึ้นใจ และคิดดูว่าใช่มั้ย

ไอ้ของวิเศษที่สร้างความร่ำรวยขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล...ท่านไม่มีหร๊อกกก มันไร้สาระ

ผมเคยถามหลวงพ่อ...ท่าน ด้วยความเคารพว่า คนที่มาให้ท่านช่วยทุกรายเนี่ยะ

ทำไมบางรายก็ช่วยให้สิ่งที่เค้า...ปรารถนาสำเร็จได้ด้วยดี แต่บางรายก็ช่วยไม่ได้ล่ะครับ

ท่านบอกสั้น ๆ ....มันขึ้นอยู่กับว่าเค้ามี พุทโธ มั้ย

หมายถึงเป็นคนที่มีศีลธรรมอยู่ในหัวใจ สวดมนต์ไหว้พระ ปฏิบัติฯ ภาวนาแค่ไหน

ท่านเมตตาทุกคนเท่ากันหมด เปรียบเทียบว่าท่านช่วยให้คะแนนเพิ่มกับทุกคน 30 เปอร์เซนต์

ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับว่า คนที่มาขอให้ท่านแผ่เมตตาช่วย เค้ามีต้นทุนบุญอยู่เท่าไหร่

ถ้าเค้าทำบุญกุศลมาดีมีคะแนนอยู่เดิม 80 คะแนนแล้ว

ได้ท่านช่วยอีก 30 เปอร์เซนต์ คือเพิ่มให้อีก 24 คะแนน

รวมแล้วได้ 104 คะแนน เกินร้อยไปอีก....เรื่องที่เค้าขอมันก็สำเร็จได้

แต่...ถ้ารายไหน ทำบุญมาน้อย ไม่ค่อยได้ปฏิบัติฯ ภาวนา มีต้นทุนบุญมาแค่ 50 คะแนน

ท่านช่วยเต็มที่ให้อีก 30 เปอร์เซนต์ ได้แค่ 15 คะแนน

รวมของเก่าที่เค้ามีก็ได้แค่  65 คะแนนเท่านนั้นเอง...เรื่องที่ขอให้ช่วยคงจะยากแล้ว

ผมฟังแล้วถึงได้เข้าใจ ที่ท่านว่า...เมตตาไม่มีประมาณ คือให้ทุกคนเท่ากันหมด ไม่ได้เลือก ไม่ได้ลำเอียง

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 5

ด้วยความอยากรู้ ในเรื่อง ผีสาง เทวดา นางฟ้า นรก สวรรค์ บาป บุญ

เคยกราบเรียนถาม ว่า..พวกครูบา เล่าให้ผมฟังว่า

เทวดามักจะมาหาหลวงพ่อ บ่อย ๆ หรือครับ

หลวงพ่อ...ท่านตอบว่า...พวกเทวดา เค้าชอบฟังธรรม น่ะ อันที่จริงพวกเค้าก็มาสวดมนต์เย็นด้วยเป็นประจำ

ผมบอกท่านว่าอยากเห็น...เทวดา นางฟ้า น่ะครับ

ท่านนิ่งไปพักนึงแล้วบอก...จะให้เห็นเทวดา มันยาก เพราะภูมิเค้าละเอียดมาก จิตของผมมันยังหยาบเกินไป

แต่ถ้า...ผี ก็พอจะเอามาให้ดูได้ จะดูมั้ยล่ะ

ผมบอก...โอ๊ยย ไม่เอาอ่ะ  แต่ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ

ท่านเมตตา บอก...เปรียบเหมือน คลื่นวิทยุ นั่นแหละ

คลื่นของเทวดา นางฟ้า เค้าละเอียดมากเกินไป จนคนทั่วไปรับไม่ได้ เพราะเครื่องรับมันห่วย

แต่ถ้าเรา...พัฒนาคลื่นสมอง และจิตใจ ให้มีคุณภาพดีขึ้น จนสามารถ จูน ความถี่ให้เข้ากับพวกเค้าได้ ก็จะเห็น หรือคุยกันได้

แต่...ผี คลื่นเค้า หยาบ มากเราสามารถจูนหาเค้าได้ง่ายกว่า

ผมเรียนถามท่านต่อ...มีชาวบ้านบอกว่า วัดของเรา...ผี เยอะและ ดุมากด้วย ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับ

ท่านบอก...วัดนี้ เป็นป่าช้ามานานร้อยกว่าปี แล้ว วิญญาณก็เลยเยอะเป็นธรรมดา

อีกประการหนึ่ง...วัดนี้เป็น แดนกลาง ของโลกวิญญาณ เปรียบเหมือน สถานีรถไฟหัวลำโพง หรือสนามบิน น่ะ

วิญญาณ ที่ตายไปแล้ว แต่ยังไม่มีที่ไปด้วยเหตุใดก็ตาม

หรือ วิญญาณที่เพิ่งพ้นโทษจาก นรก หรือหลุดจากความเป็น เปรต อสุรกาย แต่ยังไม่มีที่ไป

ก็เหมือน คนที่รออยู่ที่ หัวลำโพง หรือสนามบิน แต่ยังไม่มี...ตั๋ว ที่จะไปต่อ

เลยตกค้างรอคอยกันอยู่อย่างนี้

พวกเค้า...หิวโหย ทุกข์ทรมาน พอเจอใครที่เคยมีกรรมสัมพันธ์กัน เป็นญาติพี่น้องกันมา เค้าก็จะขอให้ช่วยส่งบุญให้ได้กินบ้าง

ผมสงสัยว่า ...จะมีวิญญาณที่ดีบ้างมั้ย

ท่านว่า...มีสิ วิญญาณบางดวง เคยเป็นแม่ออก พ่อออก ( คนที่เคยมาปฏิบัติธรรม ที่วัด )

พอตายแล้ว หรือขึ้นจาก นรก มาแล้วด้วยความเคยชิน ชอบมาที่นี้ เป็นวิญญาณที่ดี ก็ปฏิบัติธรรม ชอบฟังสวดมนต์ ชอบฟังเทศน์

เคยมีคนมาขอลูก ที่นี่...เค้าก็ตามไปเกิดด้วยกับคนนั้น

แล้วท่านก็ยกตัวอย่าง...ผัวเมียคู่หนึ่งอยู่ จ.เลย อายุเริ่มมากแล้วแต่ไม่มีลูก

มาขอให้หลวงพ่อช่วย ท่านก็ให้ไปอธิษฐานขอกับ พระประธานในโบสถ์

มีวิญญาณของแม่เฒ่าที่มาถือศีลที่วัด จนวาระสุดท้าย

แต่...วิญญาณก็ไม่ได้ไปไหน ยังคงถือศีล สวดมนต์เหมือนเมื่อยังมีชีวิตอยู่อีกหลายสิบปี

พอรู้ว่าผัวเมียคู่นี้เป็นคนดี มีศีลธรรมเลยตามไปเกิดกับเค้า

เด็กคนนั้นก็แปลก พอเกิดมาแล้วไม่ยอมกินเนื้อสัตว์ ถ้าป้อนให้กินจะป่วยทุกครั้ง

ยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อถึงวันพระ จะร้องไห้จนพ่อแม่ต้องพาไปสวดมนต์ที่วัด

ผมเคยเจอ ผัวเมียคู่นี้ กับลูกสาวของเค้า...แกน่ารักมากจริง ๆ ด้วย

หลังจากอยู่ไปนาน ๆ เรียนถามท่านบ่อย ๆ

พอจะจับความได้ว่า...ที่วัดนี้ ถึงจะมีภูต ผี วิญญาณสารพัดมาอยู่รวมกัน

แต่ก็มีการแบ่งภูมิ แบ่งมิติออกไปอีก

มีวิญญาณ ที่มีฤทธิ์มีเดช เป็นหัวหน้าควบคุมกันไปไม่ได้ต่างจาก...คุก ในเมืองมนุษย์เรานี่แหละ

มีการแบ่งแดน กันตามความผิด ความหนักหนาของโทษทัณฑ์

มีตัวหัวโจกในทุกแดน มีผู้คุมที่ได้รับการแต่งตั้งมาทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย

และก็ยังมี หัวหน้า ของผู้คุมอีกเป็นชั้น ๆ ไป

แต่ทั้งหมดนั้น พวกเค้าเคารพ และยำเกรง หลวงพ่อ....มากที่สุด

พวกวิญญาณ และเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย...เกรงกลัว ผู้มีศีล ผู้ทรงศีล ผู้ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาทำกรรมฐาน

เพราะด้วยเหตุหนึ่งคือ ....ผู้ทรงศีล ผู้มาปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ได้แผ่ส่วนกุศล ผลบุญให้พวกเค้า

โดยไม่มีประมาณ ไม่เลือกที่รัก ผลักที่ชัง แผ่ให้ทั่วไปหมด ได้รับกันถ้วนทั่วไปหมด

อีกประการที่คนสมัยนี้ไม่เคยรู้ คือ....

ในสวรรค์ มีกฎเหล็กอยู่ข้อหนึ่ง เทวดาทั้งหลายไม่ว่าเล็ก หรือใหญ่แค่ไหนก็ต้องเชื่อฟัง

ไม่ว่า... พระสงฆ์ รูปใดองค์ใด ที่ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา

เทวดา ที่อยู่ในสถานที่นั้น ๆ จะต้องปกปักษ์รักษา คอยดูแลอย่าให้มี ภัยอันตรายใด ๆ มากล้ำกราย

ในทางกลับกัน ถ้าเทวดา ในที่นั้นปล่อยปละละเลยหน้าที่นี้...จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก

กฎเหล็กข้อนี้ ถือเป็น....มติสวรรค์ ไม่มีใครลบล้างได้

ซึ่งกฎมติสวรรค์ข้อนี้ ยังขยายหมายรวมไปถึง...คนธรรมดา ที่มีความเพียรพยายาม ปฏิบัติฯ ภาวนา ทำกรรมฐานอีกด้วย

ตลอดเวลา 1 เดือนที่ผมได้มาอยู่กับท่าน ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวของสิ่งที่เรียกว่า...โลกหลังความตาย

แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรพิสดารเลย

มันเป็นเรื่องธรรมดา ของธรรมชาติ ถ้าเราเข้าใจเรื่อง 31 ภพภูมิ

เปรียบเหมือนเราอยู่ในตึกขนาดใหญ่มหึมา กว้างขวางไม่จำกัด ...แต่มี 31 ชั้น

วันนี้พวกเรา อยู่ในชั้นที่ 4 คือ คน หรือ มนุษย์

ชั้นที่ต่ำที่สุด สมมุติว่าคือชั้น 1 นั่นคือ...นรก

ชั้นที่ 2 ถัดขึ้นมา คือ เปรต อสุรกาย

ชั้นที่ 3 คือ สัตว์เดรัจฉาน หมา แมว วัว ควาย มด ปลวก

ส่วนชั้นที่เหนือเราขึ้นไป ก็เป็นที่อยู่ของ...เทวดา นางฟ้า พระอินทร์ พระพรหม

ไล่ลำดับกันขึ้นไปตามความ หยาบ หรือละเอียดของจิต พวกที่ชอบเหมือน ๆ กันก็ไปรวมกลุ่มอยู่ด้วยกัน

แต่...เทพเทวา เทวดา นางฟ้า ก็ยังมีทุกข์ มีกิเลสอยู่เหมือนกัน

พวกเค้าต่างจากเรา ก็แค่ไม่มี...ร่างกาย จึงไม่ทุกข์กาย

แต่ก็ยัง...ทุกข์ใจ

เมื่อครั้งที่เคยเป็น มนุษย์ ชอบฟังธรรม รักษาศีล สิ่งเหล่านี้มันฝังอยู่ในจิตใจ

เมื่อได้อัตภาพใหม่เป็น เทพ เทวา ใจก็ยังฝักใฝ่ในธรรมอยู่เสมอ

จะพากันมา....สวดมนต์ มากราบ พระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อยู่เสมอ

ที่วัดป่าฯ แห่งนี้ เมื่อถึงเวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็น

หลวงพ่อ....ท่านจะกำชับทุกครั้ง ว่านั่งให้เรียบร้อยเป็นระเบียบ

และห้ามนั่งขวางทาง ขวางประตู ต้องเปิดช่องไว้ให้เทวดาเค้าเดินเข้ามาได้สะดวก

ผมเคยกราบเรียนถาม หลวงพ่อ...ว่า

พวกเทวดา นางฟ้า เค้าหน้าตาเป็นยังไง สวยมั้ย หล่อมั้ย แต่งตัวยังไง

ท่านบอก...พวกเค้าหน้าตาสวยหล่อมากทุกคน แต่ก็หน้าตาคล้าย ๆ กันหมด ไม่ค่อยแตกต่างกัน

เวลามา จะมาเป็นหมู่เป็นพวก มีหัวหน้านำมา...คนอื่น ๆ แทบจะไม่พูดอะไรเลย

จะมีแต่หัวหน้าของเค้าเท่านั้น ที่จะพูดหรือทำอะไร ส่วนคนอื่นจะอยู่ในระเบียบเรียบร้อยมาก

บางวันก็มากันหลายหมู่ หลายพวกทีเดียว

ผมถามท่าน...เพราะอย่างนี้เราถึงต้องสวดบท เชิญเทวดา ใช่มั้ยครับ

แต่ท่านกลับบอกว่า...อันที่จริงไม่ต้องสวดเชิญ เค้าก็มากันอยู่แล้ว

ที่ไหนมี พระผู้ปฏิบัติฯ ดี เค้าก็มากราบไหว้ร่วมฟังธรรมอยู่แล้ว

พวกเค้าโหยหา ธรรมะ อันประเสริฐอยู่แล้ว ...ที่ไหนมีของดี เค้าก็ไปบอกต่อ ๆ กันเหมือนคนเรานี่แหละ

แต่พอถามมาก ๆ เข้า...ก็จะโดนท่านเอ็ดเอา ว่าอยากรู้ไปทำไม

ถ้าอยากรู้มากนัก ก็ตั้งใจปฏิบัติฯ ให้เต็มที่สิ จะได้เห็นด้วยตัวเอง

ความสงสัยมันไม่มีที่สิ้นสุดหรอก ต้องรู้เอง เห็นเอง ถึงจะหายสงสัย

มีเรื่องราวมากมายที่บอกออกไป จะยิ่งทำให้คนฟังฟุ้งซ่าน คิดจินตนาการไปผิด ๆ ถูก ๆ

ท่านเปรียบเทียบให้ฟัง ว่า....เหมือนกับว่าพวกเราทุกคนเป็นคน ตาบอด

แต่แล้ววันนึง ท่านเกิด...ตาดีมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา

แล้วท่านก็มาเล่าให้กับ คนที่ยังตาบอดอยู่ฟังถึงสิ่งที่เห็นมา

อีทีนี้แหละจะเกิดปัญหา เกิดเรื่องยุ่ง เหมือนจะเล่าถึง พระอาทิตย์ พระจันทร์ แสงแดด สีสันสวยสดของดอกไม้

ถามว่าคนฟังที่ตาบอดมาทั้งชีวิต มันจะเข้าใจได้มั้ย จินตนาการถึงมั้ย

ยิ่งถ้าบอกเค้าว่าเห็น เครื่องบินเป็นยังไง นกที่บินอยู่บนฟ้า หรือ ปลาที่อยู่ในน้ำ

คนตาบอดที่นั่งฟัง ก็จะมีหลายประเภท คือ...พวกที่เชื่อว่าท่าน เห็นจริง ๆ  แต่ก็จินตนาการตามไปไม่ถึง

พวกที่เชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง ฟังแล้วยิ่งมืนตึ๊บบบ

กับอีกพวกที่ไม่เชื่อเลย มีที่ไหนเหล็กหนัก ๆ จะบินได้ หรือตัวอะไรมันจะไปอยู่ในน้ำได้ยังไง

แล้วก็พลอยด่าว่า คนที่ตาดี หายมืดบอด...ว่าบ้าไปแล้ว

เหตุนี้แหละที่ทำให้...พระอริยสงฆ์ ท่านจึงปลีกวิเวก เบื่อหน่ายพวกคนตามืดบอด

แถมหูหนวกบอกอะไรก็ไม่เชื่อ ไม่ฟัง

ได้แต่สงสาร และสมเพช เมื่อท่านเมตตาแล้ว

กรุณาก็แล้ว สุดท้ายก็ต้อง...วางอุเบกขา

สัตว์โลกย่อมเป็นไป...ตามกรรม

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 6

ในบรรดาที่มากราบหลวงพ่อ.... ยังมีอีกประเภทที่น่าสนใจ

คือ ผู้ทรงศีลทั้งหลาย ทั้ง..พระ แม่ชี  และคนธรรมดาที่ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา กรรมฐาน ที่ตั้งใจเดินเส้นทางแห่งการหลุดพ้น

พวกท่านมักจะแวะเวียนมา...กราบคารวะหลวงพ่อ...ที่ถือว่าเป็น มหาเถระ พ่อแม่ครูอาจารย์ 30 กว่าพรรษาแล้ว

และขอให้ท่านชี้แนะในส่วนการปฏิบัติฯ ที่ติดขัด หรือไปผิดทาง

หลวงพ่อ...ท่านจะเพ่งพิจารณาบอกบกพร่องให้แก้ไข และให้คอยกำลังใจ

หลายคนที่ บ้าบุญ บ้าเอาเงินปัจจัยไปทำถวายตามวัดต่าง ๆ ท่านก็บอกให้ตั้งใจ ภาวนา ทำกรรรมฐานให้มากจะดีกว่า

ทานบารมีน่ะเยอะแล้ว แต่ด้านอื่นน้อยเหลือเกิน

หรือให้ข้อคิด ข้อปริศนาธรรมไปขบคิด เช่น....คิดว่าเจ้าตัวเป็นคนแบบไหน...ขี้ห่อทอง หรือ ทองห่อขี้

มีแม่ชีท่านหนึ่งมากราบท่านแล้วรายงานว่า เวลาที่ภาวนาไปจนจิตนิ่งสงบดีแล้ว มักจะนิมิตเห็น...ตัวยิ้ม อยู่เสมอ

ขอให้หลวงพ่อ...ช่วยพิจารณาว่าเป็นเพราะอะไร

ท่านนิ่งมองอยู่อึดใจหนึ่ง แล้วพูดออกมา...ก็เราน่ะมันเป็น ตัวยิ้ม นี่นา

แม่ชีท่านนั้นฟังแล้วนิ่งอึ้งไป หลวงพ่อ...กำชับอีกว่า ให้ไปพิจารณา ตัวยิ้ม นั้นให้ดี ๆ

ผมเห็นแม่ชีท่านไป นั่งภาวนานั่งคิดอยู่ 3 วัน แล้วมากราบหลวงพ่อ

รายงานท่านว่า....คิดตกแล้ว คิดได้แล้ว เข้าใจแล้ว ขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นล้นพ้น ก้าวหน้าขึ้นเยอะเลย

บางรายมารายงานว่า....ภาวนาได้นิมิต เห็นอย่างนั้นอย่างนี้

หลวงพ่อ...ท่านกลับบอกว่า...ถูกหลอกแล้ว พญามารหลอกให้หลงทางแล้ว

ท่านจะปรับแต่งการภาวนาให้เหมาะสม บางรายติดสมาธิ บางรายหลงภวังค์

หรือชอบนับฌาน ว่าได้กี่ขั้นไปถึงขั้นไหนๆ แล้ว

มีหนักกว่านั้นอีก คือ...ไปหลงวิชา ฤๅษี เพราะเห็นผิดคิดว่าเป็นทางลัด

ที่เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็เยอะไปแอบเรียนมาแล้วเอามา...เพ่งภาวนา จนวิปลาสเพี้ยนไปหลายแล้ว

ยิ่งตอนนี้แถวอีสาน ฤๅษีกำลังระบาดมาก

เจอหนัก ๆ ก็ที่วัดท่านเองนี่แหละ

ตอนมาบวชทางบ้านปิดบังไม่ยอมบอกว่า...ลูกชายเป็นโรคจิตเภทอ่อน ๆ เคยพาไปรักษาที่ รพ.มาแล้วแต่ยังไม่หาย

หมกมุ่นกับ.ธรรมะ คำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ เอามาอ่านมาท่อง แล้วจินตนาการไปกันใหญ่

พอมาอยู่กับหลวงพ่อ...ท่านสอนวิธีภาวนา ซึ่งกลายเป็นไปเพิ่มพลังให้จิตที่มันผิดเพี้ยนอยู่แล้วให้เตลิดเปิดเปิงกันใหญ่

แถมแอบเล่น...เฟสบุ๊ค สอนธรรมะอุตลุต สอนเก่งด้วยนะ อ่านแล้วเคลิบเคลิ้ม.....

พอมียอดไลค์ ยอด...สาธุ เยอะ ๆ เข้าอีทีนี้สติหลุด อาโลโก

ประกาศออกเฟสบุ๊ค ว่า.....เมื่อคืนนี้ได้สำเร็จอรหันต์ หมดกิเลสสิ้นแล้ว แถมบอกด้วยว่า หลวงพ่อ...ท่านรับรองแล้วด้วยนะเว้ยยยย

เท่าน้านน แหละ...เจ้าประคุณเอ๊ยยยย มีพวกบ้า สาวกหูเบาเชื่อกันใหญ่ตามมากราบกรานถึงวัดด้วย

และก็มีพวกที่ตามมาด่า....พาลว่าไปถึงหลวงพ่อ...ด้วยว่าทำไมไม่จัดการเอาออกจากวัดไป

หลวงพี่ครูบาเพี้ยน ก็เหลิงลมโพสแทบทุก 3 ชม.

มารู้เอาหลังจากเอาตัวมาไล่เรียง ว่า...ไม่ยอมกินยาระงับประสาทที่หมอให้

ไม่ยอมหลับยอมนอน นั่งเพ่งภาวนา ไปตามใจนึกเอง เออเอง หนักเข้าพี่แกพูดกับตัวเอง ยิ้มกับตัวเอง

กิจวัตรไม่ยอมทำ ไม่ออกบิณฑบาต อ้างว่าภาวนาซะเหนื่อยไปหน่อย...แต่กุฏิตัวเอง รกสกปรก เหม็นหึ่ง

จนต้องไปตามแม่มาให้ลาสิกขา เอาตัวไปรักษา ไปควบคุมกันเองที่บ้าน

โอ้ยยย  เล่นเอาเหนื่อยไปทั้งวัด

อีกประเภทที่ หลวงพ่อ...ท่าน ไม่เอาเด็ดขาด

วันหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านพา..แม่ชีสาว อายุน่าจะสักไม่เกิน 35 หน้าตาสวยแบบเปรี้ยว หุ่นนางแบบเลย

นุ่งขาวห่มขาว โกนหัวเป็นชีเต็มตัว มาขออยู่ที่วัดเพราะตั้งใจสละทางโลก

แต่มีลูกสาวติดมาด้วย 1 คน อายุ 12 ปี

ผมเห็นตัวแม่ชี ที่มือมีรอยสัก แบบสาวใจกล้า ...แต่กริยาอ่อนน้อมเรียบร้อยซะเหลือเกิ๊นนน

หลวงพ่อ...ท่าน ฟังไปเพ่งพิจารณาไปแล้วบอกว่าที่วัดนี้ไม่มีการรับแม่ชีมาอยู่

ตัวแม่ชีสาว ก็เริ่มร้องไห้เสียใจ สะอื้นนน อึ๊ก ๆๆๆๆ บอกว่าอยากจะมาอยู่ที่วัดนี้ซะเหลือเกิน อยากมาภาวนามาก ๆๆๆๆ

แต่หลวงพ่อ...ท่านไม่รับท่าเดียวเลย

พอพากันออกจากวัดของเราไป ผู้ใหญ่บ้านก็พาไปที่...วัดบ้าน ใกล้ ๆ กัน

สมภารท่านเห็นแล้วใจอ่อน......ยวบบบ

หลายเดือนต่อมา ได้ข่าวว่า...ท่านสมภาร ดาวน์รถให้ขับเอาไว้ไปรับ-ส่ง ลูกสาวไปโรงเรียน

และมอบหมายให้ แม่ชีสาวดูแล ทู้กกกก อย่างในวัด

ผมถามหลวงพ่อ...ว่าทำไมไม่รับมาล่ะครับ ท่าทางเปรี้ยวดี น่าจะเป็นสีสันของวัดเรา

ท่านหัวเราะ บอกขืนเอามาไว้ละก้อพวก ครูบาใจแตกหมด แหกผ้าเหลือง หรือต่อยตีแย่งกันสอนธรรมะ แน่เลย.....

แบบนี้เหละ ....ลูกสาวพญามาร

อันที่จริงที่วัดของเรานี้ มีบทเรียนอย่างนึกไม่ถึงมาก่อนแล้ว

เคยมี ผู้หญิง อายุประมาณไม่เกิน 50 ฐานะดี หน้าตาผิวพรรณไม่เลว

มาขออยู่ปฏิบัติธรรม ตั้งใจภาวนากรรมฐานอย่างยิ่ง

ท่านก็อนุญาต เพราะมีผู้ใหญ่ฝากมาอีกที ซึ่งอันที่จริงท่านชอบให้คนมาเข้าวัดปฏิบัติฯ กรรมฐาน ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี

แต่พอมาอยู่แล้ว...มีกิเลสแปลก ๆ บางอย่าง ไม่ยอมกินข้าววัด บอกว่าไม่สะอาด ไม่ถูกปาก

ไม่พูดกับชาวบ้าน ปลีกตัวภาวนาอยู่คนเดียว ....บอกว่าเคยเป็นลูกศิษย์ ท่านหลวงตาวัดบ้านตาด

มีวิธีการภาวนาของตัวเองอยู่แล้ว แค่มาขออาศัย สถานที่วิเวกเหมาะกับการปฏิบัติธรรมเท่านั้น

พออยู่ได้ไม่กี่สัปดาห์ ไม่รู้อีท่าไหนไปสนิทสนมกับ ครูบา ที่มีพรรษาเยอะพอสมควร

คุยกันเรื่อง ธรรมะ โขมงโฉงเฉง ....แพร่บเดียว ครูบาท่านนั้นใจแตก บอกว่า นิมิตเห็นว่าเคยเป็น...คู่บารมีกันมาก่อน

ผู้หญิงคนนั้น ลูกผัวก็มีแต่เหินห่างกัน ....ก็เกิดหลงคู่บารมีหัวปักหัวปำ

คงเป็นเวรกรรม ของทั้งคู่ เพราะช่วงนั้นหลวงพ่อ...ก็ให้ติดภาระกิจวุ่นวายอยู่นอกวัด สารพัดเรื่อง

มอบหมายให้ครูบา ท่านนั้นที่อาวุโสสูง ดูแลแทน

เหมือนพญามาร ได้ทีมีช่องว่าง กว่าท่านจะรู้เรื่องเรียกมากำหราบก็ไม่ทันแล้ว...ไม่ยอมฟังอะไรแล้ว

ยืนยันว่าเป็น...คู่บารมี มาเจอกัน ต้องจูงมือกันไปสร้างบารมีให้กับสัตว์โลกทั้งหลาย หลวงพ่ออย่ามาขวาง

เท่านั้นไม่พอ ยังทำท่าจะฮุบวัดซะด้วยสิ มีการไปเรียกเพื่อนฝูง และลูกศิษย์ที่เคยอยู่ วัดบ้านตาด มากันใหญ่

มาตั้งกลุ่มคุยกันลั่นไปหมด วัดหาที่สงบไม่ได้เลย แถมบังอาจไปขุดต้นไม้ ถากถางเตรียมสร้างเพิงพัก

แบ่งแยกถือตัว ชั้นเป็นแม่ชีมีศีลมาก เธอศีลน้อย ต้องคอยรับใช้ชั้น นะยะ

มีแต่พวก บ้า ๆ บอ ๆ ทั้งนั้น มาอยู่กันโดยอ้างว่า...ครูบา รองเจ้าอาวาสยินยอมแล้ว

ทีแรกหลวงพ่อ...ท่านก็เมตตาสงสาร คนหลงผิดไม่อยากทำอะไรรุนแรง ให้เวลากลับตัว คิดใหม่ทำใหม่

แต่...ชาวบ้านไม่ยอม และไม่พอใจพวก แม่ชี ทั้งหลายที่มาทำลายความสงบ และสวยงามของวัดที่เค้ารัก และหวงแหน

รวมตัวกันไปกราบท่าน...ขอให้จัดการขั้นเด็ดขาด ม่ายอย่างนั้นจะจัดการกันเอง อาจถึงขั้นตบสั่งสอนให้มี....สติ

ในที่สุดท่าน พิจารณาแล้วว่าไม่ไหว ...ประกาศไล่ทุกคนออกจากวัดภายใน 3 วัน

แต่ที่แปลกประหลาด คือ...พวกเค้าเพ่นแน่บไปกันในวันรุ่งขึ้นเลย

ชาวบ้านได้ยินพวกนั้นพูดกันว่า....ถูกผีหลอก ผีรบกวน อยู่ไม่ได้แล้ว ทั้ง ๆ ที่อยู่กันเกือบ 20 คนมาตั้งหลายวันแล้ว

ตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อ...ท่านเลยเข็ดขยาด กลัวลูกศิษย์ใจแตก ถูกพญามารจับไปกินหมด

ความคิดเรื่องจะยอมให้มี แม่ชี ในวัดเลยเป็นอันเลิกกัน......

ชาวบ้านแอบมากระซิบกับผมว่า....พอท่านออกปากไล่ไม่ให้อยู่ พวกผีที่นี่เค้าเลยแผลงฤทธิ์กันสนุก

อือออ จะว่าไปแล้วพวกผี วิญญาณเฮี้ยน ๆ ที่นี่เป็น...ลูกน้องของหลวงพ่อทั้งนั้น

ผมเคยเจอกับตัวเองหลายครั้ง ทั้งครูบา และชาวบ้านก็บอกเหมือนกัน

ใครที่มา ปฏิบัติธรรม แล้วขี้เกียจ หรือเหลวไหล เป็นได้เจอดีกันทั้งนั้น

พระ ก็ยังโดน อย่าว่าแต่คนธรรมดาเลย ...ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังนะครับ

วัดป่า....คือสถานที่ตั้งใจให้ วิเวก สงบสงัด เป็นที่สัปปายะ เหมาะแก่การใคร่ครวญพิจารณาตนเอง

มีของใช้เท่าที่จำเป็นจริง. ๆ เท่านั้น ตัดเรื่องความหรูหราฟุ่มเฟือยออกไป

และที่สำคัญต้องมีน้อยที่สุด ก็ยิ่งดี

พระป่า....คือ ผู้ที่ตั้งใจเดินรอยตามองค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

คร่ำเคร่งบำเพ็ญภาวนา จดจ่ออยู่กับการพัฒนาตนเอง...ทุกลมหายใจ

แต่....ทุกสถานที่ ก็จะมีคนที่ตั้งใจเอาจริงเอาจัง ตั้งหน้าตั้งตาเดินให้ถึงจุดหมายโดยไม่ย่อท้อว่าระยะทางจะอีกไกลแค่ไหน

ทำอย่างเดียว คือเดินต่อไป..ต่อไป..ๆๆๆๆๆ ทีละก้าว ....ทีละก้าว

และก็จะมีคนที่ในตอนแรกมีความตั้งใจล้นหลาม ห้ามไม่อยู่ จะพุ่งไปหาสวรรค์ หานิพพานให้ได้ทันใจ ทันทีทันใด

แต่พอก้าวเดินไป ๆๆๆ แล้วมันอึดอัด ขัดข้องใจ ไม่เป็นไปตามที่คาดคิดไว้ เพราะมันยากเย็นแสนเข็ญนัก

มีทั้งพวกที่พยายามหาทางลัด แอบคิดว่า ครูอาจารย์ที่เราอยู่ด้วยหมกเม็ดหวงวิชา หรือ ไม่แน่จริงนี่หว่า

ถ้าเก่งจริงก็ต้องสอนให้เราพุ่งทะยานไปแล้วสิเนี่ยะ

หรืออีกพวก ก็อดทนต่อความยากลำบากไม่ไหว กฎเกณฑ์ก็ช่างแสนจะเข้มงวด

หลวงพ่อ ครูอาจารย์ก็โหดร้ายทารุณ เอาเรื่องกับเราไปซะหมดทุกอย่าง

ไม่ว่าจะ นั่ง นอน ยืน เดิน กิน ขับถ่าย ท่านคอยจับจ้องเอาผิดไปซะทุกขั้นตอน

ผมเอง...ผ่านสถานการณ์ทั้งหลายรูปแบบมาหมดแล้ว โดนมาสารพัด

แต่ภายหลัง เมื่ออยู่ห่างหลวงพ่อ...หรือ พ่อแม่ครูอาจารย์ แล้วให้...ว้าเหว่

หวนกลับไปนึกถึงที่ท่านเข้มงวด ก็เพราะท่านรัก ท่านเมตตา เต็มไปด้วยความหวังจะให้เราได้ดี

หลวงพ่อ....ท่านเคยบอกว่า ทุกคนที่เข้ามาอยู่กับท่าน ก็เปรียบเหมือนเป็น...ลูก ของท่าน

แล้วย้อนถามผมว่า...รักลูกมั้ย

ท่านเคี่ยวเข็ญ จ้ำจี้จ้ำไช พร่ำบ่นสั่งสอน ก็เพราะท่านเห็นแล้วว่า...หนทางข้างหน้ามันเป็นอย่างไร

นรก ...รอเราอยู่. สวรรค์...ถ้าจะไปต้องบากบั่น

ท่านรักเรา ถึงห่วงใยกลัวลูกของท่านจะ พลาดพลั้ง ร่วงหล่นลงไปในนรก

พระนิพพาน นั้นยิ่งกว่าคำว่าต้องทรหดอดทน หรือคำว่าแสนเข็ญมันก็ยังห่างไกลนัก

แต่...ก็มีคนไปถึงได้มากมาย สิ่งใดที่ มนุษย์ ทำได้ เราที่เป็นมนุษย์ก็ย่อมทำได้

การเป็น...พระป่า ไม่ได้เป็นกันง่าย ๆ และก็ไม่ได้บังคับให้ใครมาเป็น

ต้องอาสา เต็มใจปรารถนาที่จะเดินเข้ามาสู่เส้นทางนี้ เส้นทางวิบาก ยิ่งกว่าเดินทน วิ่งทน ซะอีก

บางสำนัก อย่างวัดถ้าสหาย ของหลวงปู่จันทร์เรียน...ถ้ายังนั่งสมาธิภาวนา ไม่ได้ถึง 5 ชั่วโมงติดต่อกัน อย่ามาให้เสียเวลา

เมื่อผมได้ก้าวเข้าไปสู่โลกของ....วัดป่า พระป่า ผมเหมือนกับได้พบกับโลกใหม่ ที่เหลื่อมซ้อนอยู่ในโลกใบเดิม

หลวงพ่อ...ท่าน พาไปดู ไปรู้จักกลุ่มของ มนุษย์ ที่ยอมอุทิศตนก้าวเดินไปในเส้นทาง อริยมรรค อย่างทรหดอดทน

ยอมอดนอน ผ่อนอาหาร ยอมสละละทิ้งทุกสิ่ง รูป รส กลิ่น เสียง อันเป็นกิเลสในสันดาน

เอาจริง ๆ แล้วพวกท่าน ทำสวนทางกับโลกที่เรารู้จักมาตลอดชีวิต

โลกสอนให้เรา ไขว่คว้า หา เก็บ สะสม และชื่นชม โอ้อวด เราหาเข้ามา แต่พระ ต้องเอาทิ้งออกไป

แต่พระป่า...ยิ่งต้องสละละทิ้ง สิ่งที่มีอยู่ทั้งหลาย ทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม ทรัพย์สินสมบัติ ลูกเมียอันเป็น...แก้วตาดวงใจ

สละแม้สิ่งที่เป็น นามธรรม ความรัก ความชอบ ฝ่าฝืนขืนสู้กับกิเลสทั้งหลายที่มันครอบครองใจเราอยู่

ถ้ามีโอกาสเหมาะ ก็ต้องทิ่มแทงสวนเข้าไปในกลางใจกิเลสของเรา...หาเล่นงานมันบ้าง

กินให้น้อย กินไม่ให้อร่อย

นอนให้น้อย นอนอย่าหลับใหล

เดินให้สำรวม ทุกก้าวให้มีสติกำกับ

จะขับถ่าย หนักเบา ต้องรู้ตัวเพ่งเพียรระวังไปทุกจังหวะ

มองเห็นอะไร อย่าให้หลงใหล ต้องให้เข้าใจความเป็นจริงของไตรลักษณ์

ต้องคำนึงถึง องค์ประกอบเหตุปัจจัย ว่าอะไรรวมกันมันจึงเกิดขึ้น มีอยู่ชั่วระยะเวลา และสุดท้ายก็แตกสลายไป

แต่ในมุมมองของผมเอง นะ

วัดป่า...พระป่า.....ก็ไม่ได้มีแต่เรื่อง เคร่งเครียดเหนื่อยหนัก ไม่มีการพักการผ่อนไปซะหมดทุกขณะจิต ทุกเรื่องไป

ยังมีมุมสนุก มองเห็นความร่าเริง ความแปลกแตกต่าง และความมหัศจรรย์ ให้ตื่นตาตื่นใจเยอะแยะมากมาย

ทั้งสถานที่ ทั้งพระ ทั้งคน ทั้งผี ทั้งสิงสาราสัตว์ มดแมลง ที่รวมตัวมาอยู่ด้วยกันใน...วัดป่า

ถ้าชอบก็บอกนะครับ จะค่อย ๆ เล่าให้ฟัง เท่าที่จะเล่าได้

อันที่จริง....หลวงพ่อ...ท่านไม่อยากให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน

ท่านกลัว และเบื่อหน่าย....คนบ้า บ้าบุญ บ้าธรรม บ้าปาฏิหาริย์ จะมาหาท่านให้ปวดหัวไม่หยุดไม่หย่อน

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 7

ว่าไปแล้ว คนดี ๆ ที่มาขอปฏิบัติฯ ภาวนาที่นี่ก็มีหลายท่านเหมือนกัน

อย่างเช่น หญิงสาวอายุไม่น่าเกิน 30 รูปร่างหน้าตาธรรมดา ๆ แต่มีความพิเศษ แลดูสง่า และมีอำนาจอย่างบอกไม่ถูก

ฐานะดี มาก ๆ ๆๆๆ เป็นผู้บริหารดูแลด้านการเงินของบริษัทใหญ่ใน กทม.

แต่จะหาเวลาปลีกตัว ขอลางาน ลาสามีมา ภาวนา กรรมฐาน เป็นประจำ

สงบเสงี่ยม พูดน้อย ปฏิบัติฯ เข้มแข็งมาก

อ้อลืมบอกไปว่า...ที่วัดนี้หลวงพ่อ...ท่านเน้นนักหนา

เวลาเดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา ต้อง...ไม่ให้ใครเห็น และไม่เห็นใคร

คือต่างคนต่างทำ กุฏิทุกหลังมี ทางจงกรม และอยู่ห่างกันชนิดว่ามองไม่เห็นกัน แต่พอตะโกนหากันได้

ครั้งนึง ตอนเที่ยงคืน ผมจะลงไปที่...ทางจงกรม ประจำของผม

แต่เห็นแสงเทียน ซะก่อน เลยย่องไปดูว่า...ใครตัดหน้าลงไปเดินก่อนเรา นะ

ก็เห็นหญิงสาวคนนี้เอง ผมเลยหลบไปนั่งภาวนารอเวลาเค้าเลิก

คืนนั้นเธอเดินตั้งแต่ เที่ยงคืน ถึงหกโมงเช้าเลย

ดูเธอผ่องใส ไม่ยึดติดโลก ไม่ทุกข์กับหน้าที่การงาน เจอกันทีไร...ยิ้มอ่อน ๆ แต่สว่างไสวทุกครั้ง

หลวงพ่อ...ท่านบอกว่า คนที่มีศีลบริสุทธิ์ จะองอาจกล้าหาญ และสง่างาม เสมอ

ผีสาง ต้องกลัวเค้า แม้แต่เทาดา ยังต้องเกรงใจเลย

ไม่ต้องบวช ไม่ต้องห่มจีวร ก็เป็น พระ ด้วยใจ ไม่ใช่เครื่องแบบ

หรืออีกพวกหนึ่ง อยู่สระบุรี

เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิ ปรนนิบัติ ดูแลคุณแม่จันดี วัดป่าบ้านตาด

เรียนการภาวนา กรรมฐาน แบบ...ม่างกาย ทำลายขันธ์ พิจารณาอสุภะ

ได้แบ่งถวายที่ของครอบครัวออกมาแปลงหนึ่ง ให้กับหลวงพ่อ....

ในครั้งแรกท่านจะไม่รับ เพราะอยู่ไกลกันมาก ห่างวัดท่านตั้งเกือบ 500 กม.

แต่ก็มาขอรบเร้าให้ท่านไปดู ไปพิจารณาซักครั้งเถอะ

พอท่านไปเห็นที่ดิน...มันเป็นสวนส้มเก่า รกร้าง ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผล

เต็มไปด้วยรกชัฏ ต้นไม้ที่มีหนามสารพัด แถมยกร่องสวน ไม่ได้ปรับให้ราบเรียบซะด้วยซ้ำ

หลวงพ่อ...ท่านเห็นแล้วเกิดมีความรู้สึกแปลก ๆ กับสถานที่แห่งนี้ คืนนั้นท่านเลยขอพักในที่นั้น

ตอนกลางคืน ท่านนั่งภาวนาแล้วรู้ว่า....ที่ตรงนี้เคยเป็น วัด เก่าแก่นานมากแล้ว

มีพระเจดีย์อยู่ข้างใต้พื้นดิน และ...ท่านเคยเป็น สมภารเจ้าวัดที่นี่มาก่อน

สถานที่นี้ยังมี...พญานาค คุ้มครองอยู่ แถมมาขอให้ท่านพัฒนาขึ้นเป็นวัดอย่างเดิม

และยังบอกอีกด้วยว่าชื่อเดิม คือวัด ...วังโพธิ์นาคาราม

นั่นแหละท่านจึงยอมรับเป็น ประธานการพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็น...สำนักปฏิบัติธรรม

คนกลุ่มนี้ เกือบทั้งหมดเป็นผู้หญิง มีความตั้งใจในการ ภาวนากรรมฐานอย่างแข็งขัน

พากันมาขอนิมนต์หลวงพ่อ ให้ลงไปเทศน์แนะนำการปฏิบัติฯ เป็นประจำ

คนดี ๆ ที่ขยันภาวนากรรมฐาน ไปๆ มาๆ ที่วัดป่า....แห่งนี้บ่อย ๆ มีมากหน้าหลายตา

แต่ไม่เอิกเกริก มากับเงียบ ๆ เรียบร้อย สงบเสงี่ยมสำรวม

ชาวบ้านก็รัก และเคารพคนแบบพวกนี้มากเหมือนกัน จะคอยดูแลทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี

พอตอนค่ำ จะสวดมนต์ทำวัดเย็นกัน...กระหึ่ม มีพลังมาก

อันที่จริง ทั้งหลวงพ่อ... และชาวบ้านก็ชอบให้มีคนต่างถิ่นมาปฏิบัติฯ ภาวนามากเลย

มันได้บรรยากาศ ได้อารมณ์แปลกใหม่ดีจริง ๆ

กลุ่มคนนักปฏิบัติธรรม ที่สระบุรี นี้ ขอเรียกว่ากลุ่ม..วังโพธิ์ฯ ก็แล้วกันนะ

มีหัวหน้าเป็นผู้หญิง ที่เคยรับใช้ดูแลคุณแม่จันดี

ท่านชื่อ ครูอร เพราะเคยเป็นครูมาก่อน

พวกวังโพธิ์ฯ เค้าชอบไปปล่อยปลากันที่วัด หลวงพ่อสำเร็จ ใกล้ ๆ บ้านพวกเค้า

โดยการเรี่ยไรเงินกันคนนะนิดละหน่อย ครั้งนึงประมาณ 3 - 4 พันบาท

แล้วไปซื้อปลาในแผงตลาดสดช่วยชีวิตมัน เอาไปปล่อยที่ท่าน้ำ หน้าองค์หลวงพ่อสำเร็จ

มันแปลกมาก...ทุกครั้งที่ปล่อยปลา จะมีฝนตกปรอย ๆ แต่ตกเฉพาะแค่ในคลองเท่านั้น...ตกให้พวกเราดู

ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อ...ท่านไปร่วมปล่อยปลาด้วย ผมก็ตามไปด้วย

เออ...มีฝนตกจริง ๆ ด้วยแหละ แถมตกปรอย ๆ แค่ในน้ำเท่านั้น

พอขึ้นมาแล้ว ท่านบอกกับผมว่า...พญานาคเค้ามาอนุโมทนาบุญด้วย

เอาหัวมาพาดที่ท่าน้ำเลย แต่เสียดายที่พวกเราไม่สามารถเห็นได้.......

พูดถึงเรื่อง...พญานาค แล้วขอเล่านิดนึง

วัดป่าฯ.....ของหลวงพ่อ.... ที่บันไดหน้าโบสถ์มีรูปหล่อ พญานาค 2 ตนซ้าย ขวา

ทำด้วยทองเหลืองอย่างดี มีชื่อติดอยู่ด้วย งานฝีมือละเอียดสวยเชียวแหละ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่กำลังเหมาะสม

ผมเคยถามหลวงพ่อ....ว่าทำไมมีชื่อติดอยู่ด้วย ท่านตั้งเองเหรอครับ

ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า....เมื่อหลาย ๆ ปีก่อน วันหนึ่งมี พญานาค 2 ตน มาหาท่าน

แล้วกลายเป็นคน ทั้งผัว ทั้งเมีย ต่อหน้าท่านเลย แนะนำตัวว่า ชื่อ สมโณ และ รูปิณะ

มากราบ ขอมาอาศัยอยู่ ปฏิบัติบำเพ็ญธรรม ที่นี่ด้วย ซึ่งท่านก็อนุญาต

แต่...เค้าขอให้ช่วยทำรูปพญานาคไว้ที่บันไดโบสถ์ ด้วยเถิด

หลวงพ่อ...ท่านก็เลยไปจ้างช่างทำด้วยไฟเบอร์ เพราะมันไม่แพงมาก น้ำหนักก็เบาดี

แต่ยังไม่ทันได้ปั้นแบบ พญานาคสมโณ กับรูปิณะ 2 ผัวเมียมากราบท่าน บอก....ไม่เอาไฟเบอร์ ขอเป็นสีทอง

ท่านบอก ทองคำไม่ไหวหรอก แพงเกินไป เดี๋ยวขโมยมางัดเอาไปหร๊อกกก

เลยต้องไปหาช่างทำออกมาเป็น...ทองเหลือง พอเสร็จออกมสวยงามมากทีเดียว

ชาวบ้านพากันตื่นเต้น กันใหญ่...เอาผ้า 5 สี และพวงมาลัยมาคล้อง เตรียมบวงสรวงใหญ่โต

หลวงพ่อ...ท่านกลับห้ามไว้ ไม่ให้ทำเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ถ้าจะบูชา ต้องบูชา...พระพุทธรูป พระประธาน ซึ่งเป็นองค์แทน. สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แต่ก็ให้ทำแต่พองาม เท่านั้น เพราะการบูชาที่แท้จริงที่ท่านสรรเสริญ คือ...การปฏิบัติบูชา

ไม่ใช่...งมงายบูชา

ท่านเคยบอกผมว่า...ไม่ต้องไปบูชาเค้า

เราอยู่ในภพภูมิ ที่ดีกว่า เหมาะสมกับการบรรลุธรรม มากกว่าพวกเค้า

เค้ามีฤทธิ์ เราก็มีเหมือนกัน ...แต่คนละแบบ

พวกเค้าสิ...อิจฉามนุษย์ ที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ เดินจงกรม ภาวนาจนหลุดพ้นได้

แต่พวกนาค ก็มีทั้งดี ทั้งร้าย เหมือนกันหมด

พวกที่ดี เค้าเลื่อมใสศรัทธา ชอบฟังธรรม ชอบมาอยู่ใกล้ ๆ ผู้ปฏิบัติดี มีศีล

ท่านว่า...ที่เมืองลาว นั่นมีอยู่กันเยอะมาก เพราะคนที่นั่นยังยึดมั่นในศีลเคร่งครัด

ท่านเคยไปเที่ยว ได้พบเห็นด้วยตัวเองหลายครั้ง

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 8

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองคนเดียว นะครับ

ระหว่างวัดบ้าน และวัดป่า ก็เป็นวัดในพระพุทธศาสนาเดียวกัน

อันที่จริง คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

พระองค์ท่านสอนแค่เรื่องเดียว คือ ...ความทุกข์ และการดับทุกข์

ความทุกข์ มีทั้ง...ทุกข์กาย และ ทุกข์ใจ

ทุกข์กาย ก็เพราะเกิดมา แก่ไป โรคภัยรุมเร้า ทุกข์ทรมานจากความป่วยไข้ เจ็บปวดร่างกาย

สุดท้ายก็ตายดับไป ก็แค่ดูมัน เข้าใจมัน อย่าไปฝืน อย่าไปเหนี่ยวรั้งเกินกว่าเหตุ มันต้องเป็นไปอย่างนั้นเอง

ทุกข์ใจ อันนี้ใหญ่หลวงไม่มีประมาณ โศกเศร้า เสียใจ อยากได้แล้วไม่ได้  แต่ไอ้ที่เกลียดกลัวนักหนา ไม่อยากได้ ก็ไปได้มา

ความคาดหวังสิ่งไดก็ไม่สมหวัง ทุกข์ใจเพราะความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น อยากอวด อยากในชื่อเสียง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข

ไอ้ความทุกข์ ทั้งกาย ทั้งใจ จะดับมันให้สิ้นซากไปได้เพียงวิธีเดียว คือ....ต้องไม่เกิด

เพราะถ้าเกิดมาปุ๊บ มันจะตามมาด้วย แก่ เจ็บป่วย และตาย มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด ก็จะมีความรัก มีความอยาก....สารพัด

มันเป็นวงจร ที่หมุนวนเวียนลากพากันไปไม่จบไม่สิ้น

เพราะฉะนั้นต้องตัดมันที่ต้นตอ ต้นเหตุ ก่อนมันเกิด แต่วิธีการล่ะ

กาย...เราควบคุมมันไม่ได้ อย่างเก่งก็แค่ประคับประคองไป

แต่จิตใจ ...ถึงแม้มันจะควบคุมยาก แต่ยังหาวิธีจัดการจนได้ มีคนทำมาแล้ว

ในประเทศไทยของเรารับเอาธรรมะ ของ พระพุทธเจ้า มาในรูปแบบที่เรียกกันว่า...เถรวาท

เหมารวมหมดมาตั้งแต่สมัยแรกที่ พระพุทธศาสนา เข้ามาในเมืองไทยเราเลย สืบทอดปฏิบัติตามกันมาเรื่อย ๆ

แต่อะไรที่ทำตาม ๆ กันมาถึงแม้จะคอยระแวดระวังไม่ให้ผิดเพี้ยนแค่ไหน

ก็คนเราสติปัญญา ความชอบ ความเห็นส่วนตัวไม่เท่ากัน ไม่เหมือนกัน ....จริตต่างกัน

สัญชาติญาณของคนในแต่ละภูมิภาค ก็แตกต่างกัน...

คนทางเหนือ ชอบแบบหนึ่ง ทางใต้ก็อีกแบบ ทางอีสานไปอีกแบบ ภาคกลางไปอีกทางหนึ่ง

กฎกติกาที่เรียกว่า...พระวินัย ย่อมคลาดเคลื่อนไป...ทีละนิด ทีละน้อย คล้อยเคลื่อนไปอย่างไม่รู้ตัว

กาลเวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งรัตนโกสินทร์

พระองค์ท่านเคยบวชเรียน มาอย่างหนัก ทรงศึกษาพระธรรมคำสอนมาอย่างดีเยี่ยม

ทรงเห็นถึงความผิดเพี้ยน บิดเบือนที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจของ พุทธ ในบ้านเมืองเรา

แต่การที่จะจัดระเบียบไปทั้งประเทศ ในคราวเดียวกัน คงเป็นไปไม่ได้แน่นอน

พระองค์จึงทรง จัดตั้งสงฆ์กลุ่มเล็ก ๆ ขึ้นมาเพื่อ...เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

เรียกกลุ่มนี้ว่า....ธรรมยุต หรือ ธรรมยุติกนิกาย

พระสงฆ์ ที่เหลืออันมีจำนวนมากมายกว่า เรียกว่า...มหานิกาย

ต่อมาอีกหลายสิบปี ได้มีพระภิกษุผู้เคร่งใน ธุดงควัตร คือ...หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ท่านมีวัตรปฏิบัติ ที่เข้มแข็ง มีลูกศิษย์แตกขยายออกไปมากมาย

ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า...พระป่า หรือ วัดป่า

ส่วนที่ไม่ได้สืบทอดมาจากหลวงปู่มั่น คนทั่วไปจึงเรียกว่า...พระบ้าน หรือ วัดบ้าน

อันที่จริงแล้ว ทั้งพระบ้าน พระป่า ก็มีพระวินัยปฏิบัติ 227 ข้อเหมือนกัน

เพียงแต่ใครจะเลือก เคร่งครัดจัดระเบียบเข้มงวด จริงจัง กันแค่ไหน

วัดบ้าน ท่านอยู่คลุกคลีกับชุมชน อยู่เป็นหลักใจที่ใกล้ชิด ชาวบ้านเข้าหา เข้าถึงได้ง่าย

พวกท่านจะเน้นเรื่องการเรียน การหาความรู้ในพระธรรมคำสอน และทฤษฎีวิชาการทางศาสนามากกว่า

ส่วนการปฏิบัติฯ ภาวนาท่านก็ต้องทำกันอย่างขยันขันแข็ง ไม่ให้ย่อหย่อน

แต่ก็ด้วยการอยู่คลุกคลีกับ โลกโลกีย์ ของชาวบ้านทั่ว ๆ ไปจึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาศึกษาปฏิบัติอย่างจริงจัง

ว่าไปแล้วบ้านเมืองของเรามี พระบ้าน มหานิกาย ดี ๆ ทั้งเยอะ ท่านมีสติปัญญาอย่างล้ำลึก

สามารถสั่งสอนคนทั่วไป จากที่มีกิเลสมาก ให้หูตาสว่างหันมาสนใจหนทางดำเนินชีวิตให้เป็น...ปรกติสุข ดับทุกข์ร้อนได้

อย่างที่บอกแล้วว่า พระบ้าน ท่านอยู่ใกล้ชิดรับใช้สังคม ทำให้มีคนมากมายเข้ามาอาศัยบวชเรียน

ถ้าเปรียบเป็นกองทัพ วัดบ้าน ก็เหมือนกับ...โรงเรียนเตรียมทหาร

คัดเลือกคนที่หน่วยก้าน สติปัญญาดี เอาเข้ามาฝึกหัดขั้นต้น

ให้ออกกำลังกาย ออกกำลังใจ ใส่ความรู้เข้าไป ใส่ภาพกว้างให้ได้เห็นว่าภาพรวมของ พุทธศาสนา เป็นอย่างไร

แล้วตัดสินใจเอาเอง ว่าจะไปเรียนต่อ ฝึกหัดต่อในสายไหน จะเป็นเสนาธิการ เป็นกองเสบียงพลาธิการ หน่วยโยธาคอยกรุยทางให้

หรือจะเอาจริงเอาจังตั้งใจเป็น....นักรบแนวหน้า ฝ่าประจันห้ำหั่นข้าศึก ไล่ฆ่ากิเลสศัตรูหมู่มาร

จำนวนที่มากของคนที่เข้ามา ร้อยพ่อพันแม่ ก็ย่อมมีทั้งคนดี คนเลว ต่างอุปนิสัยสันดานดิบ

เหตุผลที่มาบวชก็แตกต่างกันไปมากมาย อย่างที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ....อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารโทรม

สมัยนี้ยังมีเพิ่มเข้าไปอีก...บวชแก้บน บวชอาศัยหากิน บวชหลบภัย บวชหน้าไฟ บวชแก้ซวย บวชชุบตัว ฯลฯ

วัดบ้าน ที่ไม่ค่อยเคร่งครัด ไม่ค่อยดี สกปรกรกรุงรัง เราก็เห็นมาเยอะ

แต่วัดบ้าน ที่ดี ๆ มีระเบียบวินัย มีการอุปถัมภ์ในการเรียน การหาความรู้ เป็นที่พึ่งในยามยาก เป็นที่พักพิงของคนที่หมดหนทาง

บอกได้เลยว่ามีอยู่เยอะแยะมากมาย

ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเห็นชัด ๆ ...สมภารเจ้าวัด เจ้าอาวาส นั่นแหละคือกุญแจ ของเรื่องราวทั้งหมดถ้า...หัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก

ถ้าสมภาร เป็นพระที่ดี เข้มแข็ง ทรงวินัย ทรงปัญญาเคร่งครัด รับรองว่า....วัดนั้นทั้งวัด ก็จะเป็นไปตามอย่างสมภาร

วัดไหน ที่หัวหน้า กลายเป็นหัวโจก มีเล่ห์กระเท่ จ้องหาแต่ผลประโยชน์ ขายเครื่องรางของขลัง ของไร้สาระมอมเมาเอาสตางค์ชาวบ้าน

ไปดูเถอะ ทั้งวัดมีแต่คนแบบนั้น ชาวบ้านที่เข้าหาวัดแบบนั้น ก็เพราะชอบเรื่องแบบอย่างนั้น....กิเลสมันสันดานเดียวกัน

หลวงพ่อ....ท่านเคยบอกกับผมว่า........ดีดูดดี. ขั่วดูดชั่ว

ท่านช่างใช้คำ ได้สั้นกระชับเหลือเกิน คนเหมือนกันย่อมดึงดูดเข้าหากัน

ส่วน พระป่า...ในความคิดเห็นของผมแต่เพียง...คนเดียว นะคร้าบบบบบ

พวกท่านเหมือน นักรบแนวหน้า หน่วยลุย เรนเจอร์

พวกท่านไม่ประนีประนอมกับ สันดานหมู่มารในจิตใจ ท่านไม่ยอมอ่อนข้อให้ แต่ไล่ฆ่าล้างผลาญ ตามราวีเพียรเผากิเลสอย่างเดียว

สถานที่อยู่ของพวกท่าน ที่เรียกกันว่า....วัดป่า ก็ไม่เน้นเอาสวยเอางาม แต่ต้องการประโยชน์ใช้สอยเท่าที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

ท่านต้องการความสงบ วิเวก เงียบสงัด ของธรรมชาติ ท่านจึงปลูกต้นไม้มากมายเป็นป่าอยู่ภายในวัด

ด้วยการที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ขนาดใหญ่ ก็ย่อมมีสัตว์ นก หนู กระรอก กระแต งู หมู่แมลง ต่างๆ นาๆ มาอยู่อาศัยด้วย

เพราะฉะนั้น ข้าวของที่อยู่ต้องเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ห้ามรกรุงรัง และต้องสะอาดสะอ้านอย่างที่สุด

มิฉะนั้นแล้ว จะเกิดมีมดแมลงมาอาศัย ตามมาด้วย จิ้งจก กบ คางคก และที่ตามมากินมัน คือ แมงป่อง ตะขาบ หรือ งูพิษร้าย

กุฏิ ศาลา ทั้งหลายจึงต้องหมั่นขยันเช็ดถูปัดกวาด ของใช้ต้องน้อยชิ้น โปร่งโล่งให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้มี แมลง และสัตว์ร้ายมาอาศัย

บวกกับ จริต ความคิดความตั้งใจ ที่จะละลดปลดวาง ไม่เอาอะไรทั้งนั้น หมุนสวนทวนกระแสโลก

พวกท่านจึงไม่สะสม มีแต่จะขจัดออก ....ทำทุกอย่างสารพัดก็เพื่อ เอากิเลสออกจากใจ

แต่ก่อนนั้นผมไม่เคยรู้จัก หรือเข้าใจ...มหานิกาย ธรรมยุต พระป่า พระบ้าน

จนกระทั่งได้รู้จักกับ....หลวงตามหาฯ.....ผู้เป็นเสาหลักปักแน่น เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของคนใน อ.กมลาไสย

ท่านมีประวัติที่น่าสนใจมากมาย บวชเรียนเป็นพระบ้าน มหานิกาย อุทิศตัวตั้งใจศึกษาไปให้ถึงที่สุดของเส้นทางนี้

ได้ถึง...เปรียญ 8  แต่เมื่อจะไปต่อเปรียญ 9 อันเป็นขั้นสุดท้ายแล้ว

ท่านกลับยังรู้สึกว่า...ทำไม่ยังมี ความทุกข์ อยู่ในใจ

ความรู้ทางพระพุทธศาสนา ที่ร่ำเรียนสั่งสมมาอย่างเหลือคณานับ ยังไม่สามารถดับความทุกข์ทั้งหลายในใจได้เลย

หลวงตามาหาฯ....ท่านจึงมาไตร่ตรองตนเอง ถ้าเส้นทางนี้เราดับทุกข์ไม่ได้ ยังมีเส้นทางไหนอีกล่ะ

มาเจอแนวทางของ...หลวงปู่มั่น พ่อแม่ครูอาจารย์สายพระป่า

จึงวางการศึกษาทาง...ปริยัติ มามุ่งสู่ทาง...ปฏิบัติ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนดับสิ้นทุกข์ในสันดานหมดสิ้น

จากนั้นเอาความรู้ทั้ง...ปริยัติ บวก ปฏิบัติอย่างหนักหน่วง มาสั่งสอนลูกศิษย์ของท่าน คนรุ่นใหม่ที่มีมากมายในภาคอีสาน

ท่านมีความเป็นเลิศทาง..ปัญญา และเทศนาปาฏิหาริย์

เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญ แต่ท่านกลับอธิบายด้วยถ้อยคำง่ายๆ แค่ไม่กี่คำ...คนฟังเกิดปัญญาแทงทะลุปรุโปร่งได้เลย

แต่คนที่เข้าไปกราบท่าน ต้องระวังตัว ระวังใจให้ดี......

คุยกับท่าน เหมือนถูก งูเหลือม ค่อย ๆ รัด จากแตะแผ่ว ๆ มาค่อย ๆ รัดรึงตรึงบีบเข้า คั้นเข้า

กว่าจะรู้ตัวเราก็...ตายสนิท หลงรักท่านเข้าเต็มหัวใจซะแล้ว

ท่านได้ทำการ แปลง...วัดบ้านของท่าน ให้กลายเป็น วัดป่า

เอาแนวทางปฏิบัติฯ ธุดงควัตรของหลวงปู่มั่น มาประยุกต์ให้เข้าได้กับ ชาวบ้านธรรมดา พ่อค้าแม่ขาย ข้าราชการ นักการเมือง ลูกศิษย์ของท่าน

อะไรที่หย่อนยาน ท่านก็จัดการฟิตเครื่องใหม่ แต่อะไรที่ตึงเกินกำลังของคนทั่วไป ท่านก็ยอมลดหย่อนผ่อนให้นิดนึง

ทุกครั้งที่ได้ไปกราบ ไปสนทนากับท่าน ผมไม่เคยเบื่อเลย มีแต่ความสนุก ความสุข ลืมโลก ลืมเวลา

ทั้งๆ ที่กำลังถูกท่านจูงจิต จูงใจให้เข้าหาเส้นทาง พระนิพพาน อันแสนยากเข็ญ

แต่พอฟังท่านพูดแล้วเหมือนมันง่าย ไม่ได้ยาก ไม่ได้ไกลเกินกำลัง ทั้งกระตุ้น ทั้งท้าทาย ทั้งให้กำลังใจ

ท่านบอกว่า ความเป็นพระ ไม่ได้อยู่ที่ศีล ที่เครื่องแบบ ที่นิกาย แต่อยู่ที่....ใจ

ไม่ต้องบวช ไม่ต้องเคร่งครัดพระวินัย 227 ข้อ ไม่ต้องโกนหัว ห่มผ้าจีวร

ขอเพียงให้ใจ...บริสุทธิ์สะอาด พากเพียร เวียนเผากิเลส

ตั้งใจขยันดับไฟ 3 กอง โลภะ โทสะ โมหะ ที่มันลุกโชนอยู่ในใจ นั่นและ...พระ

มีเรื่องสนุกมากมายในวัดของท่าน ไว้วันหลังจะเล่าให้ฟังนะครับ....ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อน

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 9

ครั้งแรกที่รู้จัก วัดป่า คือ 2558 ตอนนั้นไปอยู่แค่ 1 เดือน

ความที่เป็นคนกรุงเทพ มาตั้งแต่เกิด ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องซื้อหาเอาด้วยเงินสด ๆ

แต่พอไปถึงวัดป่าฯ หนทางก็ไม่รู้จัก ร้านค้ามีอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้

การพูดจากับชาวบ้านก็ลำบาก พวกเค้าพูดแต่ภาษาอีสาน ผมกับภรรยา เหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวหลงมาอยู่ที่นี่

พอตอนเช้าตาม พระ ออกไปบิณฑบาตเข้าไปหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 2 - 3 กม.

ประมาณ 100 หลังคาเรือน มีชาวบ้านมายืนรอใส่บาตรประมาณ 40 บ้านเลยเชียวนะ

เค้าไม่ได้ยืนรอหน้าบ้านใคร หน้าบ้านมันแบบใน กทม.นะ. แต่จะจับกลุ่มเข้าแถวเรียงกันหน้ากระดาน

ทุกคนมี กระติ๊บข้าวเหนียว ยืนรอพระ ...หลวงพ่อ...ท่านไม่ให้นั่งใส่บาตร เพราะว่า พระต้องก้มเยอะ

และอีกประการมารู้ทีหลังคือ ผู้หญิง นั่งในมุมต่ำมันมองลอดคอเสื้อแล้วมัน...โป๊ อย่างนึกไม่ถึง

หลวงพ่อ...ท่านเดินนำหน้า พวกครูบาเดินตามหลังเป็นแถว เรียงลำดับตามอาวุโสพรรษา บวชก่อนหลัง

ชาวบ้านจะพาลูกเมียออกมายืนรอใส่บาตรกันอย่างแช่มชื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส

พวกเค้าใส่บาตร แต่เฉพาะข้าวเหนียว มีเพียงไม่กี่คนที่มีอาหารประเภทกับข้าว และผลไม้

มารู้ทีหลังว่า ประเภทกับข้าว ต้มแกง ทอด ย่าง เค้าจะตามเอาถวายที่วัด เรียกกันว่า...จังหัน

ผมมองหาร้านค้าขายอาหาร ก็ไม่มี ตลาดก็ไม่เห็น เอาละสิเราสองคนผัวเมีย จะไปซื้ออะไรกินได้ที่ไหนกันล่ะ

เมื่อถึงเวลา...พระ ทั้งวัดจะขึ้นนั่งบนแท่นยกสูง เรียงตามลำดับอาวุโสพรรษา

หลวงพ่อสั่งให้ ผม กับภรรยา นั่งถัดออกไปต่อจากพระ....

ด้วยเหตุผลว่า มาถือศีล 8 ปฏิบัติธรรม เรียกว่ามีศักดิ์ศรี มีศีลที่ต้องรักษามากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป

แต่ พระ ท่านฉันอาหารในบาตร อาหารทุกอย่างใส่ลงในบาตรทั้งข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ ผัด แกงเผ็ด น้ำพริก

ส่วนแกงจืด ขนมหวาน ผลไม้ จะมีจานแยกต่างหาก ...อ้าวแล้วเราทำยังไงล่ะ

หลวงพ่อ...ท่านสั่งให้ไปเอา ชามกะละมัง ขนาด 12 นิ้ว มาให้คนละใบ...ใช้แทนบาตร

แต่ต้องเอาทุกอย่างใส่ลงไปใน ชามกะละมัง เหมือนที่ พระ ท่านฉันในบาตร....เราต้อง ฉัน เอ๊ยยย กินในชามกะละมัง

แล้วข้าวเหนียว และอาหารทุกอย่าง รวมทั้งขนมกับผลไม้ ก็จะถูกลำเลียงมาบน ถาดที่มีล้อ

หลวงพ่อ...และ พระท่านจะตักทุกอย่างที่ต้องการ ใส่ลงในบาตร ไล่เรียงกันมา จนถึงเราสองคน

เราก็ต้องตักข้าวเหนียว และกับข้าวทุกอย่างที่อยากได้ลงในชามกะละมัง เหมือนกัน

คุณเอ๊ยยย วันแรก ๆ มันช่างขัดเขิน มั่วซั่ว อย่างที่สุด ยิ่งเวลาช้อนไปเคาะโดนกะละมัง มันช่างดังกังวานดีจริง ๆ

ท่ามกลางสายตาชาวบ้านประมาณ 50 ที่คอยจับจ้องว่าเราจะตักอะไร ตักแค่ไหน กินของประเภทไหนกัน

วันแรก ๆ ผมเลือกอาหารไม่ค่อยถูก ได้แค่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ไก่ทอด ส้มตำนิดหน่อย เพราะกลัวท้องเสีย ไม่คุ้นกับอาหารอีสาน

จำความรู้สึกได้แม่นเลยว่า ...ขณะที่ตักอาหารคำแรกเข้าปาก

ใจมันแว่บบบ คิด...เอ๊ะ อาหารพวกนี้เราไม่ได้ซื้อด้วยเงินของเรา

นี่เรามาขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน เป็นครั้งแรกในชีวิต....ไปขอข้าวชาวบ้านกิน อ่ะ

คิดแล้วแทบกินไม่ลง แต่ก็ต้องฝืนจำใจ ไม่งั้นคงหิว แย่แน่ ๆ

เมื่อเสร็จจากเรื่อง การฉัน การกิน จบสิ้นกระบวนการแล้ว หลวงพ่อ...ท่านเรียกไปคุย เพื่อปฐมนิเทศ

ท่านถามว่า...ไปบิณฑบาต สนุกมั้ย เห็นอะไรบ้าง

ผมกราบเรียนท่านว่า...แปลกดีครับ ไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย และก็เห็นหลายอย่างที่ตื่นตา ตื่นใจ

ท่านบอก...เห็นมั้ยเวลาที่เค้าใส่บาตร เค้ายกมือท่วมหัว...ตั้งจิตอธิษฐาน

ผมบอก...เห็นเหมือนกันครับ แทบทุกคนอธิษฐานก่อนใส่ บางคนก็หลังจากใส่บาตรแล้ว

ท่านยังว่า...รู้มั้ยของที่ชาวบ้านเอามาถวายพระ นั่นเป็นของ...ดี ที่สุด ที่เค้ามี เค้าหามาได้

ของบางอย่างเค้ายังไม่กล้ากินเองเลย มันแพง...แต่เค้าเต็มใจที่จะเอามาใส่บาตรให้เราได้กิน

เราสองคนฟังแล้ว อึ้งไปเลย...

ท่านพูดต่อ...รู้มั้ยข้าวทุกเม็ด มันไม่ได้มาเปล่า ๆ นะ  มันมาพร้อมกับ...คำอธิษฐาน

คำพูดนี้ของหลวงพ่อ.....มันช่างกระแทกใจ สุด ๆ

เค้าให้เรากิน เพราะเค้าหวังให้พวกเรา มีแรง มีกำลัง ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา

ชาวบ้านที่ใส่บาตร ตั้งใจอธิษฐานท่วมหัว ท่วมหู เพราะเค้าหวังอานิสงส์ บุญที่เราจะแผ่อุทิศให้พวกเค้า

แล้วเราจะเอาบุญที่ไหนไปให้เค้า...ถ้าไม่ตั้งใจเดินจงกรม ปฏิบัติฯ ภาวนา

อีตอนนี้ เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างที่กินเข้าไป มันจุกอก...มันไม่ใช่ข้าวเหนียว ไก่ย่าง

แต่มันคือ...คำอธิษฐาน ล้วน ๆ

ท่านสำทับต่อว่า...พวกเราที่กินของที่เค้าใส่บาตร. แล้วไม่ตั้งใจภาวนา...จะกลายเป็น เปรต

ห๊าาา.....เปรต เลยเหรอครับ

ใช่...ตายไปกลายเป็น เปรต เกิดใหม่ก็ต้องมาใช้หนี้เค้าอีก

ถึงไม่เล่า ก็คงรู้นะครับว่า....เราสองคน ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาแค่ไหน

วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง...เพราะข้าวที่กินของชาวบ้านเข้าไปนี่แหละ

พอวันรุ่งขึ้น และวันต่อ ๆ เหตุการณ์มันก็วนเวียนซ้ำอีก....

ไม่รู้จะไปหาซื้ออาหารที่ไหน ต้องจำใจขอข้าวชาวบ้านเค้ากิน....

กินแล้วมันก็...จุกที่ใจ ติดค้างอยู่ในความรู้สึก กลัวจะต้องเป็น....เปรต

เลยต้องตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนาให้หนัก จะได้มีบุญกุศล แผ่ให้พวกเค้าได้

มันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้...ทู้กกกก วัน

ที่แย่กว่านั้นคือ...พอวันหลัง ๆ มันชักอร่อยขึ้นทุกที ไม่รู้เพราะเหนื่อย หรือหลงปลาร้าซะแล้ว

ที่นี่เค้าใส่ ปลาร้า แทบทุกอย่าง...เหมือนน้ำปลา

แต่เค้าต้องต้มทุกอย่างให้ สุก เพราะพระจะฉันอาหารดิบไม่ได้ ผิดพระวินัย

คนถวาย ถ้าทำไม่ดีจะบาปกรรมหนักหนา

ยิ่งอร่อยขึ้นทุกวัน อาหารแปลกใหม่มาทุกวัน ...กินมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุ้กกก วัน

มารู้ทีหลังว่า...ปลาร้า ที่เค้าทำถวายพระ เป็นสูตรพิเศษ ใส่พวกน้ำกระเทียมดอง และอะไรอีกหลายอย่าง

ทำอย่างสุดฝีมือ...มันถึงได้อร่อยเลิศเหลือหลาย

ขอสารภาพเลยว่า...หลาย ๆ เดือนต้องไปวัด ไปกราบหลวงพ่อ

และไปขอกินส้มตำ ที่เค้าทำถวายพระ ทุกวันนี้ไม่เคยกินส้มตำที่ไหนถูกปากอีกเลย อ่ะ

ทางฝ่ายชาวบ้าน พวกเค้าตั้งอกตั้งใจจับตามองดู เราสองคน

เพราะเหตุผลหลายอย่าง คือ...แปลกดีที่มีคนกรุงเทพ มาภาวนาที่นี่ ทำให้พวกเค้ามั่นใจว่า...วัด และหลวงพ่อ ของพวกเค้า ดีจริง ๆ 

พวกชาวบ้าน คิดแต่ว่าพวกเค้าเป็น...เจ้าบ้าน ต้องคอยดูแลเอาใจใส่ คนที่มาเป็นแขก คนที่มาเอาบุญ

พวกเค้าอยากให้เรา ...กินได้ นอนหลับ จะได้มีแรงเดินจงกรม นั่งภาวนา

เค้าจะใส่ใจ จับตาดูว่าอะไรที่เรากินได้ อะไรที่เราไม่กิน...จะทำของที่เราชอบมาให้เป็นพิเศษ

บางอย่างถึงกับไม่ถวายพระ แต่แอบเอามาให้เรากิน ด้วยความรัก ความห่วงใยที่ออกมาจากใจจริง ๆ

อึดอัดเหมือนกัน ที่ถูกจับตามองไปซะหมด คอยสอดส่องว่าเราจะอยู่ได้มั้ย สู้ไหวมั้ย

หลายครั้งที่เห็นเราสองคนเหนื่อยอ่อน ท้อ ...พ่อแก่ แม่เฒ่า ก็จะมาเมียง ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ ถามไถ่พูดคุยด้วย

ถึงแม้จะสื่อสาร พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็จับความรู้สึกได้ถึง...ความห่วงใย เหมือนเราสองคนเป็น ลูกเป็นหลานของพวกเค้า

ทุกวันนี้ ผ่านมาหลายปีแล้ว กลับไปที่วัดทีไร...เหมือนได้กลับบ้าน

มีพ่อ มีแม่ มีพี่น้อง ที่รักเรา ดีใจทุกครั้งที่เห็นเรา....จะเข้ามายิ้ม มาหัวเราะ มาพูดคุยจับมือถือแขน โอบกอดก็มี

แต่เรื่องขำ ๆ ก็เยอะนะ

วันแรก ๆ ที่ไปอยู่ จะมีชาวบ้านใจกล้า แอบมาเมียง ๆ ถามว่า....นอนหลับได้ บ่ ฝันดี บ่

เราก็..เออ ๆ ครับ ๆ คะ ๆ ไป ว่านอนไม่ค่อยหลับ แปลกที่น่ะ

เค้าจะถามคำถามที่สุดอึ้ง....ผี มากวน บ่. ผีมาขอส่วนบุญล่ะ บ่

พอหลายวันเข้า มาถามกันอีก....นอนหลับฝันว่าอิหยัง ฝันเห็นเลข อิหยัง

ปั๊ดโธ่ เอ๋ยยยย เค้ามาถามหา...เลขเด็ด น่ะ

ผมไปเล่าให้หลวงพ่อ...ฟัง ท่านก็หัวเราะ บ่นว่า...เนี่ยะ มันก็อย่างเนี๊ยะแหละ หาแต่เลข หาแต่หวย

ฟังเทศน์ไปจดไปว่าท่านเผลอหลุดเลขอะไรบ้าง ...ธาตุสี่ ขันธ์ห้า เราพูดอะไรกลายเป็นตัวเลขหมด

ยิ่งตอนก่อสร้างกุฏิ ศาลา เราสั่งซื้อหิน ปูน ทราย เท่าไหร่กี่กระสอบ กี่คันรถ มันตีเป็นหวย ไปหมด...เฮ้ออออ

แถมไปแทงเลขถูกซะอีก แน่ะ....อีทีนี้ตั้งใจฟังกันใหญ่ น่าเบื่อจริง ๆ

แล้วท่านก็หัวเราะ พร้อมส่ายหน้า ระอาใจ

อนณ นิศารัตน์

วัดป่า...มหาสนุก 10

ต้องขอประทานโทษก่อนนะ

การเล่าเรื่องของผม ไม่ได้ตั้งพล๊อต ตั้งโครงของเรื่องเหมือนนักเขียนมืออาชีพเค้า

แค่นึกอะไรได้ ก็หยิบมาเล่าไป เหตุการณ์มันเลยมั่วซั่ว สาละวนไปนิดนึงนะครับ

ในตอนแรกเริ่มเลย เราสองคนผัวเมีย คิดว่าจะไป...บวชเนกขัมมะ ปฏิบัติธรรม ที่วัดใน อ.กมลาไสย

แต่วัดของท่านกำลังมีการก่อสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่ มันเลยพลุกพล่านวุ่นวาย

หลวงตาฯ ท่านเลยไม่ให้อยู่ภาวนา ที่นี่ และจับเราสองคนส่งไปหา หลวงพ่อ....ที่วัดป่าฯ

เคยเล่าเกริ่นไปแล้วว่า...หลวงตามหาฯ ... ท่านบวชเรียนในสาย...มหานิกาย หรือ วัดบ้าน

ในตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะบวชอยู่นานอะไรหร๊อกกก แต่โดนพ่อแม่ กึ่งบังคับให้บวช

ท่านเป็นลูกคนเล็ก พี่ชายเคยบวชให้พ่อ ให้แม่ ชื่นใจไปสองคนแล้ว

เลยยอมตามเพื่อไม่อยากให้ท่านทั้งสองบ่น เท่านั้นเอง

แต่มันมีเหตุการณ์ แปลกประหลาดก่อนจะบวช

แต่เดิมเลยท่านเป็นคนที่สุขภาพไม่ค่อยดีอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว

คือท่านล้มป่วย ปวดท้อง ปวดลำไส้ เหมือนดังกับว่าใครมาบิดท้องไส้ เลยทีเดียว

อาการปวดเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หมอที่มาดู ก็ไม่ค่อยจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญสักเท่าไหร่...หาสาเหตุไม่เจอ

ท่านเล่าว่า....มันปวดทุกข์ทรมาน เหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ทนอยู่กับมัน ปวดกับมัน ทนทรมานกับมัน

จนถึงที่สุด ของความอดทนแล้ว ท่านคิดว่า เอาล่ะ คงต้องตายแน่นอนแล้ว

ความเจ็บปวด มันมากมายซะเหลือเกิน แต่...ก็ได้แค่ดูมัน ทำอะไรไม่ได้จริง ๆ

ในขณะที่บอกกับตัวเองว่า...คงจะต้องตายแน่แล้ว ใจมันเลยปลง ปล่อยวางนิ่งไป

ท่านว่าตอนนั้น...มันเจ็บปวด จนจิตของท่าน หนีออกจากร่างกาย

ออกมายืนดู ตัวเองที่ทุกข์จนเกินทนอยู่ห่าง ๆ ....ไม่ใช่แค่ชั่วอึดใจ นะ

แต่นานถึง 30 - 40 นาทีเลยทีเดียว

ในขณะที่ดู ก็ให้ งง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็รู้ว่า...นั่นคือกาย คือตัวเรา

แต่ที่ยืนอยู่นี่ คือจิต คือใจของเรา มันไม่ได้เจ็บปวดไปกับ กาย ของเรา

ขณะที่ดูไป ก็คิดไป...เราคงจะต้องตายแล้วล่ะ คราวนี้ คงไม่รอดแล้ว

เสียดายที่ไม่ได้...บวชให้พ่อ ให้แม่ ได้ชื่นใจ อุตสาห์ได้เกิดมาแล้ว

น่าเสียดายที่ชีวิตนี้คงเสียเปล่า เราน่าจะรีบบวช ซะก่อนตาย เน๊อะ

แล้วก็ยืนมองร่างของตัวเอง ค่อย ๆ อ่อนแรง อ่อนลมลงไปทุกขณะ

หลวงตามหาฯ ท่านเมตตาเล่าให้ผมฟังว่า...ในตอนนั้นไม่ได้มีความกลัว หรือตระหนกตกใจอะไร

จะมีก็แค่เสียดาย ที่ยังไม่ได้บวช ให้พ่อแม่  เสียดายที่เกิดมาครั้งนี้....มันช่างเสียเปล่า

แล้วจู่ ๆ ...ท่านก็ วูบ.บบบบ ไปเลย

มารู้ตัวอีกที กำลังถูกเช็ดเนื้อเช็ดตัวอยู่ อาการเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสที่มีอยู่ ....ก็หายไปดังปลิดทิ้ง

หายไปเฉย ๆ ไม่ได้เจ็บได้ปวด ไม่ได้มีอาการผิดปรกติ อะไรเลย

หมอ ก็หาสาเหตุไม่เจอ ทั้งตอนที่เป็น และตอนที่หายแล้ว

จากนั้นไม่นานท่านก็ได้บวชที่...วัดใหญ่ประจำ อ.กมลาไสย

วัดที่ท่านไม่นึกว่า จะต้องกลับมาเป็น สมภารเจ้าวัด ในอีก 25 ปีข้างหน้า

พอบวชแล้วปีแรก ๆ ก็เรียน นักธรรมตรี โท เอก ไปตามที่อุปัชฌาย์สั่งให้เรียน

ท่านเล่าว่า พอบวชแล้วร่างกายกลับแข็งแรงดีมาก

ท่านได้นักธรรมเอก แล้ว ก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะลาสิกขา ทั้ง ๆ ที่ครั้งแรกคิดว่าจะบวช ให้พ่อแม่แค่ พรรษา เดียว

อุปัชฌาย์ ได้ให้เริ่มเรียนบาลี เปรียญธรรม ต่อไป และให้มาเรียนที่กรุงเทพโดยฝากให้มาอยู่ที่ วัดเทพ.....

มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับท่าน....คือเมื่อได้เรียนรู้เรื่องราวของ...องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

แล้วเกิดความซาบซึ้งใจนักหนา....โอ้หนอ พระคุณอันล้นพ้นเหลือประมาณที่ประทานให้กับสัตว์โลก

ความเมตตาที่มีต่อคนทุกคนเท่าเทียม สม่ำเสมอ ไม่เลือกว่าชนชั้นไหน

พระองค์ท่านยอมหันหลังออกจากความสุขสบาย ราชบัลลังก์ ทรัพย์สินเหลือประมาณ อำนาจอันเกรียงไกรล้นพ้น

หันหน้าหนี มเหสีเมียรักดังดวงใจ ที่เกิดเคียงคู่กันมาทุกภพทุกชาติ

ตัดใจจาก บุตรที่เพิ่งได้พบหน้า สุดห่วงหาเป็นดั่งแก้วตา หาอาลัยไม่

พระองค์เสียสละเอาตัวของท่านเอง เป็นเครื่องทดลองเพื่อค้นหายาวิเศษ ที่จะเอามาแก้...ความทุกข์

เมื่อได้ศึกษาไปถึง พระอัครสาวก แต่ละองค์ ก็ยิ่งซาบซึ้งถึงบารมีที่พวกท่านสร้างสม

ยิ่งเรียนล้ำลึก ขึ้นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ขั้นต้น ๆ ไปจนได้ถึง เปรียญธรรม 8 แล้ว

ความรู้ที่สะสมในพระธรรมคำสั่งสอน ก็ยิ่งลึกซึ้งกินใจของท่านเองอย่างเกินบรรยาย

บารมีธรรมของ พระพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งหลายมันจับใจเหลือเกิน

มันกระตุ้น มันกระแทกที่ใจให้ฮึกเหิม จนปฏิญาณกับตัวเองว่า...เราต้องไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม

เราต้องเดินตาม พุทธองค์ ...เราต้องทำ นิพพาน ให้แจ้ง

แต่สิ่งหนึ่งที่กลับยอกย้อนทิ่มตำหัวใจอยู่เสมอ คือ...เล่าเรียนมาอย่างหนักหนา บากบั่นมาขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่พ้นทุกข์สักที

มันผิดพลาดที่ตรงไหน...ปริยัติฯ ท่วมหัวท่วมหู ก็ยังทุกข์อยู่

ความคิดนี้...วนเวียนอยู่ไม่รู้จักหาย

เมื่อคิดไม่ตก หาคำตอบไม่ได้...แสดงว่าตัวเราคงมาผิดทางแล้ว

ปริยัติฯ ที่ทุ่มเทไปแทบล้มแทบตาย คงยังไม่เพียงพอ เราต้องการ...ผล  คือแจ้งในพระนิพพาน

อย่างนั้นต้องย้อนไปที่เหตุ...เหตุปัจจัย

องค์ประกอบที่จะทำให้ตัวเรา...พ้นทุกข์ เข้าถึง พระนิพพาน มันคงต้องมีมากกว่าปริยัติฯ แน่นอน

แล้วอะไรล่ะที่ขาดหาย ตกหล่นไป.... เมื่อปริยัติ แล้วต้องควบคู่...ปฏิบัติฯ

สองอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน ต้องให้ได้สมดุลย์ทั้งสองฝั่งฝ่าย

ทุกวันนี้...สร้างบารมีทางความรู้ ในพระธรรม มากล้นแล้ว

แต่...ทางด้าน ปฏิบัติ ฯ ถึงจะตั้งใจทำอยู่ แต่คงยังไม่พอ ยังบกพร่อง ยังน้อยเกินไป ไม่ได้สมดุลย์กัน

การอยู่ในเมืองหลวง มันคงไม่เหมาะ ไม่...สัปปายะ

หลังจากคิดได้ดังนั้นแล้ว...หลวงตามหาฯ ท่านจึงขบคิดหาแนวทางในการ...ปฏิบัติฯ

ไปค้นพบเจอ...เรื่องราวของ พ่อแม่ครูอาจารย์.......หลวงปู่มั่น

เอาแนวทาง วิธีการ วิธีคิด วิธีปฏิบัติ .......เอามาศึกษาอย่างหมกมุ่นจริงจัง

เทวดา ฟ้าดิน ท่านอาจจะรับรู้ถึงความคิด และบารมีที่ท่านสั่งสมมา จึงหาทางน้อมสนอง

ในปีนั้นเอง....วัดเกษมาคม วัดบ้านเกิดทางธรรม ของท่าน กำลังอลเวง

ชาวบ้านเริ่มมองหา...ผู้นำ ที่เก่งกาจ และแข็งแกร่ง

มองไปมองมา นึกขึ้นได้...ลูกบ้านเราไปสร้างบารมีถึง เปรียญธรรม 8 อยู่ในเมืองหลวง

ว่าแล้วยกพวกพากันไป หว่านล้อมขอนิมนต์ ท่านกลับมาเป็น...หลักใจ ให้พวกเค้าเถอะ

ด้วยเหตุผลทั้งปวง หลวงตามหาฯ ที่ขณะนั้นท่านอายุไม่ถึง 50 ปี เกือบ 30 พรรษา.

ก็ยอมรับนิมนต์มาทำงานหนัก

ในปี 2535 ท่านมารับหน้าที่ สมภารเจ้าวัด ต้องเป็นผู้นำทางความคิด ทางการปฏิบัติ ให้กับคนใน กมลาไสย

แต่....มันไม่ได้ง่าย เลยสักนิด

ตอนที่ท่านกลับมาใหม่ ๆ วัด มันไม่ค่อยจะเป็น...วัด

ท่านไปอยู่วัดขนาดใหญ่ วัดหลวงของเมืองไทย ที่มีการดูแลจากทางราชการ และชาวกรุงเทพ

แต่ที่นี้ ถึงจะวัดของหลวง แต่คน...มันหลวม

พระลูกวัดที่มีอยู่เดิม...แตกเป็นก๊ก เป็นกลุ่ม แย่งกันเป็นใหญ่ แย่งกันหาผลประโยชน์

พระวินัย ไม่ต้องพูดถึง ปริยัติฯ สอบทานกันแล้วก็ให้อ่อนอก อ่อนใจ

วัดนี้เป็น...มหานิกาย แต่ความเป็นจริงมัน...มหาเลอะเทอะ มหาวุ่นวาย

เรียกอีกอย่างว่า....วัดบ้าน แต่มันใกล้คำว่าบ้าน มากกว่าวัดสกปรก รกรุงรัง หย่อนยาน และผิดเพี้ยน ผิดทาง

ออกห่าง...ความเป็น พระสงฆ์ และที่อันสัปปายะ ไปไกลแล้ว

งานหนัก...งานนี้มัน งานหนัก

สถานที่ สิ่งก่อสร้าง ก็หนักหนา...แต่เรามาพัฒนากันใหม่ได้

แต่ คน...ทั้งคนที่เป็น โยม และ คนที่เป็น พระ....มันหนักกว่า ดูแล้วให้เหนื่อยหน่ายนัก

แล้วเรื่องแบบนี้ ปัญหาแบบนี้...พระพุทธเจ้า ท่านทรงทำอย่างไรนะ ท่านทำอย่างไรหนอออออ

พระองค์ท่าน ใช้....ปัญญา

ท่านหาเหตุ หาองค์ประกอบปัจจัย แล้วไปแก้ที่ต้นเหตุ .....

พระพุทธองค์ท่านไม่เคย...หักหาญน้ำใจ กับใคร

ไม่เคยว่าร้ายใคร แต่พระองค์ท่าน ทรงเป็น....ผู้นำ

ท่านทรงนำ ทั้งความคิด และการกระทำ

หลังจากใช้เวลาตั้งหลักอยู่พักนึง หลวงตามหาฯ ท่านจึงเริ่มดำเนินการ...ทำตาม องค์พระบรมศาสดา

ทำตามแผน ที่วางไว้ในหัว....ทำให้ดู อยู่ให้เห็น

การทำให้ดู คือครูที่ดี

ครู...ที่ทำให้เราดูไว้เป็นตัวอย่าง ที่จับต้องได้เราก็มี...หลวงปู่มั่น

ท่านทำอย่างไร เราจะทำตาม...เพื่อประโยชน์ของตน เพื่อทำ...นิพพานให้แจ้ง

และประโยชน์ท่าน คือชาวบ้านที่ฝากความหวังว่า ท่านจะมาเป็นผู้นำ เป็นหลักใจ

ที่นี่ก็บ้านเกิด วัดนี้ก็วัดที่เราบวช

ถ้าทำไม่สำเร็จ จะร่ำเรียนถึง...เปรียญธรรม 8 ไปทำไม

ถ้าทำไม่ได้ ไม่สำเร็จ...ก็อาย พระพุทธเจ้า

คงไม่กล้าสบตาท่านอีกเลย.....

อนณ นิศารัตน์

บทที่                   ๑๐ ๑๑ ๑๒  ๑๓  ๑๔  ๑๕  ๑๖  ๑๗  ๑๘  ๑๙  ๒๐  ๒๑  ๒๒  ๒๓  ๒๔  ๒๕  ๒๖  ๒๗  ๒๘ ๒๙ ๓๐

๓๑  ๓๒  ๓๓  ๓๔  ๓๕  ๓๖  ๓๗  ๓๘  ๓๙  ๔๐  ๔๑  ๔๒  ๔๓  ๔๔  ๔๕  ๔๖  ๔๗  ๔๘  ๔๙  ๕๐ ๕๑ ๕๒ ๕๓ ๕๔ ๕๕ ๕๖ ๕๗ ๕๘ ๕๙ ๖๐